ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ (4)


มีมาให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมกันอีกแล้วค่ะ ประโยคภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล 1000 ประโยค ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ตัวอย่างประโยคเหล่านี้เป็นแต่เพียงแนวทางเท่านั้นนะคะ ขึ้ันอยู่กับแต่ละคนที่จะนำไปดัดแปลงและประยุกต์ใช้ แต่ควรฝึกฝนกันเป็นประจำสม่ำเสมอนะคะ แล้วจะเชี่ยวชาญไปเองสักวันหนึ่ง

ดาวน์โหลด

สามารถดาวน์โหลดอีบุ๊คพร้อม MP3 ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ 4,500 ประโยค  เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้เลย  http://20sentencesaday.blogspot.com/
............................
  1. A good student absorbs knowledge swiftly and well. นักเรียนที่ดีซึมซับความรู้เป็นอย่างดีและรวดเร็ว
  2. A lot of people visit the festival. ผู้คนจำนวนมากไปเที่ยวงานเทศกาลนั้น
  3. All foreign nationals are being advised to leave the country. ชาวต่างชาติทุกคนได้รับคำแนะนำให้ออกนอกประเทศ
  4. All I have to do is listening. ทั้งหมดที่ฉันต้องทำคือการฟัง
  5. All right, I'm gonna say okay. But there are some rules. ก็ได้ ฉันก็จะตอบตกลง แต่มีกฏบางอย่าง
  6. All you can do is inspire them to be innovative thinkers. ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือ กระตุ้นพวกเขาให้เป็นนักคิดที่สร้างสรรค์
  7. Allow me to introduce myself. ขออนุญาตให้ฉันแนะนำตัวหน่อย
  8. And don't worry, I don't need the car. I can just walk. และไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่อยากได้รถ ฉันสามารถเดินไปได้
  9. And I think we all can benefit from it. และฉันคิดว่าพวกเราทุกคนสามารถได้ประโยชน์จากมัน
  10. And I'm gonna be calling every half hour. และฉันก็จะโทรหาทุกๆ ครึ่งชั่วโมง
  11. And we'd better make it fast. และเราต้องทำมันอย่างเร็วด้วย
  12. And what exactly do you want in return? และจริงๆ แล้วคุณอยากได้อะไรตอบแทนคืน
  13. Anything special at school today? วันนี้มีอะไรพิเศษที่โรงเรียนหรือเปล่า?
  14. Are you certain of this? คุณแน่ใจหรือ?
  15. Are you doing this on company time? คุณทำสิ่งนี้ในเวลาทำงานหรือ?
  16. Are you done yet? คุณทำเสร็จแล้วหรือยัง?
  17. Are you mental? เธอบ้าหรือเปล่า? / คุณเป็นโรคจิตหรือไง?
  18. Are you running off again? เธอกำลังจะวิ่งหนีอีกล่ะสิ
  19. Are you sure you're okay now? แน่ใจนะว่าตอนนี้รู้สึกดีขึ้น?
  20. Are you willing to prove it? คุณกำลังจะพิสูจน์มันงั้นเหรอ?
  21. As long as you're here, your life will become just as you planned. ตราบเท่าที่เธออยู่ที่นี่ ชีวิตของเธอก็จะเป็นไปตามแผนที่เธอได้วางเอาไว้
  22. As soon as he accepts this, he lives life happy. ทันทีที่เขายอมรับสิ่งนี้ เขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
  23. Ask me to do something intelligent. ขอร้องให้ฉันทำบางสิ่งที่เข้าท่าหน่อยเถอะ
  24. At home, everything is much better. ที่บ้านทุกสิ่งทุกอย่างดีกว่านี้
  25. At last you have come too! ในที่สุดคุณก็มาด้วยเหมือนกัน
  26. Because from now on I will make my own decisions! เพราะว่าต่อแต่นี้เป็นต้นไปฉันจะตัดสินใจด้วยตัวของฉันเอง
  27. Because he is really nice he never hits his brother. เพราะเขาเป็นคนนิสัยดีจริงๆ เขาจึงไม่เคยตีน้องชายตัวเองเลย
  28. Because I want to protect my family เพราะว่าฉันต้องการปกป้องครอบครัวของฉัน
  29. Because of boring of their work. เพราะความเบื่อหน่ายการงาน
  30. But first and foremost, you are fired. แต่อย่างแรกที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณถูกไล่ออกแล้ว
  31. But how can my own people do this to each other? แต่ทำไมพวกเรากันเองทำสิ่งนี้ต่อกันได้
  32. But if you ain't, don't blame me. แต่ถ้าไม่ก็อย่าได้ตำหนิฉันนะ
  33. But I'll have to check my schedule to see when I'm available. แต่ฉันต้องเช็คดูตารางเวลาก่อนว่าจะว่างพบคุณได้เมื่อไหร่
  34. But not everything is 100% perfect. แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์
  35. But right now I stopped going there. แต่ตอนนี้ฉันเลิกไปที่นั่นแล้ว
  36. But sometimes you wanna hang out. แต่บางครั้งคุณก็อยากออกไปสังสรรค์บ้าง
  37. But the minimum price you would pay is 10 Baht. แต่ราคาต่ำสุดที่คุณจะต้องจ่ายคือ 10 บาท
  38. But this is too much. I don't want this. แต่นี่มันมากเกินไป ฉันไม่ได้ต้องการสิ่งนี้
  39. By studying hard, so I can get good grades to get into a good school. โดยการเรียนหนัก ดังนั้นฉันก็จะได้เกรดดี เพื่อจะได้เข้าโรงเรียนดีๆ ได้
  40. Call me if you need a rescue. โทรหาฉันถ้าอยากให้ช่วยเหลือ
  41. Call me twice a day. โทรหาฉันสองครั้งต่อวันนะ
  42. Calm down, don't act like this! สงบหน่อย อย่าทำอย่างนั้น
  43. Calm down, don't be so sad. สงบหน่อย อย่าเศร้าโศกมากนัก
  44. Can I have a word with you? ขอฉันพูดอะไรกับคุณเป็นส่วนตัวได้ไหม?
  45. Can I have my food, please? ขอฉันทานอาหารหน่อยได้ไหม?
  46. Can I persuade you to take a sandwich? ฉันจะเกลี้ยกล่อมคุณให้ทานแซนวิชได้ไหมนี่?
  47. Can I talk to you in a while? ขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม
  48. Can this wait till we get home? สิงนี้จะรอจนกว่าเราจะถึงบ้านได้ไหม
  49. Can we reason with him? เราจะชี้แจงเหตุผลกับเขาได้ไหม?
  50. Can we stay a couple more minutes? เราจะอยู่ต่ออีกสักหน่อยได้ไหม?
  51. Can you baby-sit my dog for me? คุณช่วยดูแลหมาของฉันให้หน่อยได้ไหม?
  52. Can you give me a minute? ขอเวลาฉันสักครู่ได้ไหม?
  53. Can you just not look at me like that, please? คุณได้โปรดอย่ามองฉันอย่างนั้นได้ไหม?
  54. Can you turn off that music, please? คุณช่วยปิดเพลงนั่นให้หน่อยได้ไหม?
  55. Can't you see I'm busy? ไม่เห็นหรือไงว่าฉันยุ่งอยู่
  56. Come in and take a seat! เข้ามาและก็นั่งลง
  57. Could I just get some milk, please? ขอนมหน่อยได้ไหมค่ะ
  58. Could we rain check until lunch? เราเลื่อนออกไปจนถึงเวลาอาหารเที่ยงได้ไหม?
  59. Could you clarify something before you go? คุณช่วยอธิบายบางอย่างก่อนไปได้ไหม?
  60. Could you please check? คุณช่วยกรุณาตรวจสอบให้หน่อยได้ไหม?
  61. Couldn't you give me just one more chance? คุณจะให้โอกาสฉันอีกครั้งเดียวไม่ได้หรือ?
  62. Did you ever hear of anything so exciting? คุณเคยได้ยินเรื่องอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ หรือไม่?
  63. Do I have the duty to tell you everything? ฉันมีหน้าที่ที่ต้องบอกเธอทุกเรื่องหรือไง
  64. Do not let others shame you for this. อย่าปล่อยให้ใครทำให้คุณอับอายในเรื่องนี้
  65. Do not make me wait for you! อย่าทำให้ฉันต้องคอยคุณ
  66. Do people have trouble understanding you? ผู้คนไม่เข้าใจที่คุณพูดใช่ไหม?
  67. Do the best you can. See you shortly. ทำให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถทำได้ แล้วเจอกันเร็วๆ นี้
  68. Do they seem confused when you speak English? พวกเขาดูสับสนเมื่อฟังคุณพูดภาษาอังกฤษใช่หรือเปล่า?
  69. Do we understand each other? นี่พวกเราเข้าใจกันและกันหรือเปล่า
  70. Do you feel embarrassed when you speak English? คุณรู้สึกอายเมื่อพูดภาษาอังกฤษหรือเปล่า?
  71. Do you feel frustrated because... คุณรู้สึกขัดข้องใจเพราะ
  72. Do you feel that way? คุณรู้สึกอย่างนั้นหรือเปล่า?
  73. Do you find it hard to hide the fact that you're broke? คุณพบว่ามันเป็นการยากที่จะซ่อนความจริงว่าคุณถังแตกใช่ไหม?
  74. Do you have any idea who this woman is? คุณทราบหรือไม่ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?
  75. Do you have any thoughts of your own on this matter? คุณมีความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือไม่?
  76. Do you know how long it takes for those to decompose? คุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการย่อยสลาย
  77. Do you know more or less where he lives? คุณรู้ไม่มากก็น้อยว่าเขาอยู่ไหนใช่ไหม?
  78. Do you make a lot of grammar mistakes when you speak? คุณพูดผิดไวยากรณ์มากไหม?
  79. Do you mind if I take a photo with it? คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะขอถ่ายรูปกับมันหน่อย?
  80. Do you notice anything different about me today? เธอสังเกตเห็นความแตกต่างของฉันในวันนี้บ้างไหม
  81. Do you often go to that festival? คุณไปเที่ยวงานเทศกาลนั้นบ่อยไหม?
  82. Do you really think I would leave without saying goodbye? คุณคิดจริงๆ หรือว่าฉันจะจากไปโดยไม่กล่าวลา?
  83. Do you see me as your brother? คุณเห็นฉันเป็นพี่ชายหรือเปล่า?
  84. Do you still remember your promise? คุณยังจำสัญญาของคุณได้ไหม?
  85. Do you think that you know me well enough? คุณคิดว่าคุณรู้จักฉันดีพอหรือยัง?
  86. Does it hurt much? มันเจ็บมากไหม?
  87. Doesn't that mean anything to you? นั่นไม่ได้มีความหมายใดๆ กับคุณเลยหรือ?
  88. Don't argue with me! อย่ามาเถียงกับฉัน
  89. Don't come back to me when you've changed your mind. อย่าได้กลับมาหาฉันอีกล่ะถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา
  90. Don't come near! Don't approach me! อย่าเข้ามาใกล้ อย่าเข้ามาใกล้ฉัน
  91. Don't dare come near me again. อย่าบังอาจเข้ามาใกล้ฉันอีก
  92. Don't dare to speak to me like that. อย่าบังอาจมาพูดกับฉันอย่างนั้น
  93. Don't disappoint yourself too much. อย่าน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองมากนัก
  94. Don't discourage him. อย่าทำให้เขาเสียกำลังใจ
  95. Don't force him to join us. อย่าไปบังคับเขาให้มาร่วมกับเราเลย
  96. Don't forget the rules. อย่าลืมกฏนะ
  97. Don't give me that look, I'm not ordering you around. อย่ามองฉันอย่างนั้น ฉันไม่ได้บังคับให้คุณทำนะ
  98. Don't lay a finger on her! อย่าได้แตะต้องเธอนะ!
  99. Don't let it annoy you. อย่าปล่อยให้มันรบกวนคุณ
  100. Don't make me regret my decision. อย่าทำให้ฉันเสียใจต่อการตัดสินใจนี้
  101. Don't make me say it over and over. อย่าทำให้ฉันต้องพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกเลยน่า
  102. Don't move an inch. อย่าขยับแม้แต่นิด
  103. Don't say a word to him. อย่าพูดอะไรกับเขาสักคำ
  104. Don't stand here and lie to my face. อย่ามายืนตรงนี้และโกหกต่อหน้าฉัน
  105. Don't turn your back on that. อย่าเพิกเฉยต่อสิ่งนั้น
  106. Don't waste anymore time. อย่าเสียเวลาอีกเลย
  107. Don't waste words. อย่าสิ้นเปลืองคำพูดเลย
  108. Don't worry so much just grow up normally, okay? อย่าไปกังวลอะไรให้มากนัก แค่เติบโตขึ้นมาอย่างปกติเท่านั้น โอเคนะ
  109. Don't worry. Just take a deep breath. ไม่ต้องกังวล แค่หายใจลึกๆ
  110. Don't you dare talk to anyone about this! อย่าได้บังอาจบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ
  111. Don't you guys dare say anything to him? พวกนายไม่กล้าพูดอะไรกับเขาใช่ไหม?
  112. Don't you remember what we learned? คุณจำสิ่งที่พวกเราเรียนรู้ไม่ได้หรือ?
  113. Don't you wish to try something special? คุณไม่ปรารถนาจะลองบางสิ่งที่พิเศษหรอกหรือ?
  114. Each of us is free to behave as we want to. พวกเราแต่ละคนมีอิสระที่จะทำอย่างที่เราต้องการ
  115. Enjoy it while you can. สนุกกับมันในขณะที่คุณทำได้
  116. Everybody! Head down to the basement. ทุกคนมุ่งหน้าลงไปที่ใต้ถุนตึก
  117. Everyday they buy me presents and pretty clothes. ทุกๆ วันพวกเขาจะซื้อของขวัญและเสื้อผ้าสวยๆ ให้ฉัน
  118. Everyone here is a total stranger. ทุกคนในที่นี้ล้วนแต่เป็นคนแปลกหน้าทั้งสิ้น
  119. Fine! I give up on you! ดีแล้ว! ฉันจะเลิกยุ่งกับเธอแล้ว!
  120. For your own safety, you need to sit down. เพื่อความปลอดภัยของคุณ คุณต้องนั่งลง
  121. Forgive me if we kept you waiting. ขอโทษด้วยถ้าพวกเราทำให้คุณต้องคอย
  122. From now on, he is to be left alone. ปล่อยเขาไว้ตามลำพังจากนี้เป็นต้นไป
  123. From now on, please don't give him any more work. จากนี้เป็นต้นไป ได้โปรดอย่าได้ให้งานใดๆ แก่เขาอีกเลย
  124. Get out of my sight before I lose my temper. ไปให้พ้นจากสายตาก่อนที่ฉันจะโมโห
  125. Get out of town as soon as you can. ออกไปจากเมืองเร็วเท่าที่จะเร็วได้
  126. Get ready for a new day. เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันใหม่
  127. Give me one good reason. ขอเหตุผลดีๆ สักข้อสิ
  128. Glad you understand what I'm talking about. ดีใจที่คุณเข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังพูดอยู่นี่
  129. Go ahead and do whatever you were doing. ก้าวต่อไปและทำในสิ่งที่ได้ทำมา
  130. Go and get me something to eat. ออกไปหาอะไรมาให้ฉันกินหน่อย
  131. Good to have you here. ยินดีที่คุณมาที่นี่
  132. Good to have you. ดีใจที่คุณมา
  133. Good work for a man as young as he was. งานที่ดีสำหรับคนหนุ่มอย่างเขา
  134. Have a good rest! พักผ่อนมากๆ นะ
  135. Have no fear. Tell us the truth! ไม่ต้องกลัว บอกความจริงกับเรามา
  136. Have you lost your mind? คุณเสียสติหรือเปล่า
  137. Have you seen any children yet? คุณเจอเด็กๆ บ้างหรือยัง?
  138. He almost laughed out loud. เขาเกือบหัวเราะออกมาดังๆ
  139. He better call, and he better have a good explanation. เขาควรโทรมาและควรมีคำอธิบายที่ดีด้วย
  140. He cares too much what everyone thinks. เขาสนใจกับสิ่งที่คนอื่นคิดมากเกินไป
  141. He contacted me a few weeks ago via e-mail. เขาติดต่อกับผมทางอีเมลเมื่อสองสามสัปดาห์มาแล้ว
  142. He dares to call me crazy. เขากล้าเรียกฉันว่ายายบ้า
  143. He disturbs us everyday. เขารบกวนพวกเราทุกๆ วัน
  144. He does not deserve me! เขาไม่คู่ควรกับฉัน
  145. He doesn't like you, he's better than you. เขาไม่เหมือนคุณ เขาดีกว่าคุณ
  146. He doesn't stay here no more. เขาไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว
  147. He dumped me before all my friends. เขาบอกเลิกกับฉันต่อหน้าเพื่อนๆ ของฉัน
  148. He entrusted this to me! เขามอบหมายความรับผิดชอบนี้ให้กับฉัน
  149. He got what he deserved. เขาได้ในสิ่งที่สมควรได้
  150. He had limited options. เขามีทางเลือกจำกัด
  151. He has a very good sense of humor. เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ขันมากๆ
  152. He has decided what he going to do. เขาได้ตัดสินใจว่าจะทำอะไร
  153. He has to focus in his studies. เขาจะต้องให้ความสนใจกับการเรียนของเขา
  154. He has tried desperately to reach me. เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะติดต่อกับฉัน
  155. He insulted me. เขาดูถูกฉัน
  156. He is actually in the same year as me. จริงๆ แล้วเขาอยู่ปีเดียวกับฉัน
  157. He is always envious of our happiness. เขาอิจฉาความสุขของเราเสมอ
  158. He is obviously trying to tell us something. เขาพยายามอย่างมากที่จะบอกอะไรบางอย่างกับเรา
  159. He is trying to frame me. เขากำลังพยายามใส่ความฉันอยู่
  160. He makes friends no matter where he goes. เขาผูกมิตรไปทั่วไม่ว่าจะไปที่ไหน
  161. He may be able to help us figure out how to fix this. เขาอาจจะช่วยพวกเราหาวิธีซ่อมสิ่งนี้ได้
  162. He mentioned to you several times. เขาเอ่ยถึงคุณตั้งหลายครั้ง
  163. He never asks a second favor when he's been refused the first. เขาไม่เคยขอความช่วยเหลือเป็นครั้งที่สอง เมื่อเขาถูกปฏิเสธในครั้งแรก
  164. He stands up for the right thing. เขายืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
  165. He taught me better than school did. เขาสอนฉันได้ดีกว่าโรงเรียนเสียอีก
  166. He told me that he wanted to discuss something with me. เขาบอกกับผมว่าเขาอยากจะสนทนาอะไรบางอย่างกับผม
  167. He was still in need of money. เขายังคงต้องการเงินอยู่
  168. Here comes my favorite part. มาแล้วส่วนที่ฉันชอบมากที่สุด
  169. Here. I brought you a souvenir. เอ้านี่ ฉันมีของที่ระลึกมาฝากคุณ
  170. Here's a little something to help you get started. นี่คือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ บางสิ่งที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้
  171. He's about this high. เขาสูงประมาณนี้
  172. He's always thoughtful and considerate towards me. เขาเอื้ออาทรและใส่ใจกับฉันเสมอ
  173. He's going to demand something from me. เขากำลังจะเรียกร้องบางสิ่งบางอย่างจากฉัน
  174. He's insulted me! เขาดูถูกฉัน
  175. He's kind of the magnet to people. เขาเป็นประเภทแม่เหล็กสำหรับผู้คน
  176. He's not taking this seriously. เขาจะไม่ทำสิ่งนี้อย่างจริงจัง
  177. He's obsessed with you. เขาหลงใหลในตัวคุณมั้ง
  178. He's only going to call twice an hour. เขาก็แค่โทรจะโทรมาสองครั้งต่อชั่วโมงเท่านั้น
  179. He's planning to take advantage of it any time he wants. เขาวางแผนที่จะหาประโยชน์จากมันทุกเมื่อที่เขาต้องการ
  180. He's right behind you. เขาอยู่ข้างหลังเธอแน่ะ
  181. He's staying in our house as my personal guest. เขาจะพักอยู่ที่บ้านเราในฐานะแขกส่วนตัวของฉัน
  182. He's the one that attacked me. เขาคือคนที่ทำร้ายฉัน
  183. He's the only family I've got. เขาเป็นคนเดียวในครอบครัวที่ฉันมีอยู่
  184. Hey! It's not fun at all. เฮ้! มันไม่สนุกเลยสักนิด
  185. Hey, don't make excuses. เฮ้ อย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย
  186. How cold hearted! ช่างใจดำซะจริง
  187. How dare he provoke me! เขากล้าดียังไงมายั่วอารมณ์ฉัน
  188. How deep do we need to go? พวกเราต้องลงไปลึกแค่ไหน?
  189. How did I get into this mess? ฉันตกอยู่ในความยุ่งยากนี้ได้อย่างไร?
  190. How did you find me? คุณหาฉันเจอได้อย่างไร?
  191. How did you get this? คุณไปได้มันมายังไง?
  192. How do they train the dogs? พวกเขาฝึกสุนัขอย่างไร?
  193. How do you make an omelet? คุณทำไข่เจียวยังไงหรือ?
  194. How long ago was your last relationship? สัมพันธภาพครั้งล่าสุดของคุณนี่มันนานแค่ไหนแล้ว?
  195. How long have you had your license? คุณได้ใบขับขี่มานานแค่ไหน?
  196. How many dogs do they train at a time? พวกเขาฝึกสุนัขกี่ตัวในครั้งหนึ่งๆ?
  197. How many times do I have to tell you to knock? กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ฉันต้องบอกนายให้เคาะประตู?
  198. How many times have I told you? ฉันบอกเธอกี่ครั้งกี่หนแล้ว
  199. How much do you know? คุณรู้มากน้อยแค่ไหน?
  200. How much is the fare? ค่าโดยสารเท่าไหร่หรือ?
  201. How much lab training have you had? คุณได้รับการฝึกในห้องปฏิบัติการมามากแค่ไหน
  202. How much trouble do you think I would get into? ปัญหามากแค่ไหนที่คุณคิดว่าฉันจะพบเจอ
  203. How well do you guys know each other? พวกนายรู้จักกันดีแค่ไหน
  204. However, it does present an opportunity. อย่างไรก็ตามมันก็ได้เสนอโอกาสให้
  205. I ain't afraid of him. ฉันไม่กลัวเขา
  206. I ain't supposed to be here. ฉันไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่
  207. I always enjoy chatting with you. ฉันชอบคุยกับคุณเสมอ
  208. I am entirely grown up. ฉันเติบโตเต็มที่แล้ว
  209. I am falsely accused! ฉันถูกกล่าวหาอย่างผิดๆ
  210. I am glad I finally reached you. ฉันดีใจที่ในที่สุดก็ได้เจอคุณ
  211. I am his father! I should have to protect him! ฉันเป็นพ่อเขา ฉันควรจะปกป้องเขา
  212. I am honored by your proposal. ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติกับข้อเสนอของท่าน
  213. I am honored you have traveled so far to see me. ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ท่านเดินทางมาไกลเพื่อมาพบข้าพเจ้า
  214. I am not giving you a hard time. ฉันจะไม่สร้างความลำบากให้กับคุณ
  215. I am tired. And you create problems over nothing. ฉันเหนื่อย และคุณก็สร้างปัญญาจากสิ่งที่ไม่ใช่ปัญหา
  216. I am truly sorry for your loss. ฉันเสียใจจริงๆ กับการสูญเสียของคุณ
  217. I am unable to get to the phone right now. ฉันไม่สามารถจะไปโทรศัพท์ได้ในตอนนี้
  218. I am uncertain how to respond. ฉันไม่แน่ใจว่าจะตอบอย่างไร
  219. I and the staff will do everything we can to help you. ผมและทีมงานจะทำทุกสิ่งเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยคุณ
  220. I apologize if I have awoken you. ขอโทษด้วยถ้าฉันปลุกคุณ
  221. I asked her to come here to consult on the case. ฉันขอให้เธอมาที่นี่เพื่อให้คำปรึกษาในคดีนี้
  222. I asked him to let me cook. ฉันขอร้องเขาขอให้ฉันเป็นปรุงอาหาร
  223. I beg of you, mom! I have my own dream. ขอร้องเถอะแม่ ผมก็มีความฝันของผม
  224. I believe in this book and this method. ฉันเชื่อในหนังสือเล่มนี้และวิธีการนี้
  225. I bet she's just saying that to annoy me. ฉันแน่ใจว่าเธอพูดเพียงเพื่อทำให้ฉันโกรธ
  226. I came back to get the rest of my stuff. ฉันกลับมาเอาข้าวของที่เหลืออยู่
  227. I came here to save you from your terrible fate. ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเธอจากเคราะห์ร้าย
  228. I came here to tell you a story. ฉันมาที่นี่เพื่อเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง
  229. I can hardly remember. ฉันจำแทบไม่ได้
  230. I can have it done by Monday. ฉันสามารถทำมันเสร็จได้ภายในวันจันทร์
  231. I can honestly say I have never seen this show. กล่าวโดยความสัตย์ฉันไม่เคยเห็นการแสดงนี่มาก่อน
  232. I can honestly say...I'm a changed man. ฉันสามารถกล่าวอย่างจริงใจได้ว่า ฉันเปลี่ยนไปแล้ว
  233. I can teach you how I make them. ฉันสามารถสอนวิธีทำมันกับคุณได้
  234. I can tell from your face that you won't. จากใบหน้าของคุณบอกได้ว่าคุณไม่กลับแน่
  235. I cannot believe my eyes. ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย
  236. I can't believe they picked me to replace her. ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเขาเลือกฉันมาแทนที่เธอ
  237. I can't believe you're saying this. ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคุณพูดอย่างนี้
  238. I can't do this without you. ฉันทำสิ่งนี้โดยไม่มีคุณไม่ได้
  239. I can't remember exactly where, but we can look it up. ฉันไม่สามารถจำได้แน่นอนว่าที่ไหน แต่เราสามารถค้นหามันได้
  240. I can't spend all day talking to people. ฉันไม่สามารถใช้เวลาทั้งวันพูดคุยกับผู้คนได้หรอกนะ
  241. I can't stand the tension either. ฉันไม่สามารถทนต่อความตึงเครียดด้วยเหมือนกัน
  242. I can't take that risk. ฉันเสี่ยงอย่างนั้นไม่ได้หรอก
  243. I constantly tried new methods. ฉันลองวิธีใหม่ๆ อยู่เรื่อย
  244. I cooked us something tasty. ฉันทำอาหารอร่อยบางอย่างสำหรับเรา
  245. I couldn't keep my eyes away. ฉันไม่สามารถจะละสายตาไปได้
  246. I couldn't sit there anymore waiting for you. ฉันไม่สามารถนั่งรอคุณอยู่ตรงนั้นได้อีกต่อไปแล้ว
  247. I decided I would find an answer. ฉันตัดสินใจที่จะหาคำตอบ
  248. I decided not to say another word all evening. ฉันตัดสินใจที่จะไม่เอ่ยสิ่งใดตลอดเย็นนี้
  249. I definitely won't lay a hand on you. ฉันจะไม่แตะต้องเธออย่างแน่นอน
  250. I did something really silly. ฉันได้ทำบางสิ่งที่งี่เง่ามากจริงๆ
  251. I didn't authorize you to leave. ฉันไม่ได้อนุญาตให้คุณออกไป
  252. I didn't have the courage to say I didn't know. ฉันไม่มีความกล้าที่จะบอกว่าฉันไม่ทราบ
  253. I didn't mean to be eavesdropping. ฉันไม่ได้ตั้งใจที่แอบฟัง
  254. I didn't mean to make you feel mad. ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณรู้สึกโกรธ
  255. I do believe those first two years were the worst for him. ฉันเชื่อว่าสองปีนั้นเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเขา
  256. I don't care about anyone. ฉันไม่สนใจใครทั้งสิ้น
  257. I don't care what you guys say. ฉันไม่สนหรอกว่าพวกนายจะพูดว่าอย่างไร
  258. I don't care who's responsible! ฉันไม่สนใจว่าใครรับผิดชอบ
  259. I don't even know his name. ฉันไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเขา
  260. I don't even know what it is! ฉันไม่รู้แม้กระทั่งว่ามันคืออะไรกันแน่
  261. I don't even need to explain this. ฉันไม่แม้แต่อยากจะอธิบายเรื่องนี้
  262. I don't feel the same way. ฉันไม่รู้สึกเหมือนเดิม
  263. I don't generally go out with people in my building. โดยปกติแล้วฉันจะไม่ออกไปข้างนอกกับคนที่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกัน
  264. I don't have much time for that. ฉันไม่มีเวลามากพอสำหรับเรื่องนั้น
  265. I don't know a single thing about you. ฉันไม่รู้อะไรสักนิดเกี่ยวกับคุณ
  266. I don't know how much longer I can afford to stay. ฉันไม่รู้ว่าฉันจะใช้จ่ายเพื่อพักที่นี่ได้อีกนานแค่ไหน
  267. I don't know what I shall do with myself now! ฉันไม่ทราบว่าฉันควรจะทำอะไรกับตัวเองดีตอนนี้
  268. I don't know where to begin. ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี
  269. I don't like stories, but I'll listen anyway. ฉันไม่ชอบเรื่องเล่า แต่อย่างไรก็ตามฉันก็จะฟัง
  270. I don't love boundaries but I can do them. ฉันไม่ชอบขอบเขตแต่ฉันสามารถทำให้มีได้
  271. I don't mean to hurt your feelings. ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายความรู้สึกของคุณ
  272. I don't need therapy. ฉันไม่ต้องการการบำบัด
  273. I don't need your advice or your charity. ฉันไม่ต้องการคำแนะนำหรือความเอื้อเฟื้อจากคุณ
  274. I don't think I'd be able to handle that kind of rejection. ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถรับมือกับการถูกปฏิเสธอย่างนั้นได้
  275. I don't wanna hear about you getting into trouble. ฉันไม่อยากได้ยินว่านายเจอปัญหาอีก
  276. I don't wanna make him feel uncomfortable. ฉันไม่อยากทำให้เขารู้สึกอึดอัด
  277. I don't want to cause any trouble. ฉันไม่ต้องการสร้างปัญหาใดๆ
  278. I don't want to waste much time. ฉันไม่อยากเสียเวลามาก
  279. I don't want you poisoned their brains with this nonsense. ฉันไม่อยากให้คุณล้างสมองพวกเขาด้วยเรื่องไร้สาระนี่
  280. I feared you would not come. ฉันกลัวว่าคุณจะไม่มา
  281. I feel it is my duty to warn you that. ฉันเห็นว่ามันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะเตือนคุณว่า
  282. I feel I've been very clear on this point. ฉันรู้สึกว่าฉันชัดเจนมากในประเด็นนี้
  283. I feel like I can be myself around you. ฉันรู้สึกเหมือนเป็นตัวของตัวเองเวลาที่อยู่ใกล้ๆ คุณ
  284. I feel like I've known you forever. ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ารู้จักคุณมาชั่วชีวิต
  285. I feel like we haven't spoken ever. ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเราไม่เคยพูดคุยกันเลย
  286. I finally found the answer! ในที่สุดฉันก็พบคำตอบ
  287. I found incredible new methods. ฉันพบวิธีใหม่แบบไม่น่าเชื่อ
  288. I gave up drinking. ฉันเลิกดื่มแล้ว
  289. I gave you that key for emergencies. ฉันให้กุญแจกับคุณสำหรับเหตุฉุกเฉิน
  290. I go back almost every day and just re-read and re-read. ฉันกลับมาอ่านมันเกือบทุกวัน ก็แค่อ่านแล้วอ่านอีก
  291. I go running at least three times a week. ฉันออกไปวิ่งอย่างน้อยสามครั้งต่อสัปดาห์
  292. I got dumped. ฉันถูกทิ้ง / ฉันถูกแฟนบอกเลิก
  293. I got rejected last week. ฉันถูกปฏิเสธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  294. I got the sack of my father. ฉันถูกพ่อไล่ออกจากงาน
  295. I got to check my schedule. ฉันต้องเช็คดูกำหนดการของฉัน
  296. I gotta get back to work. ฉันต้องกลับไปทำงานแล้วล่ะ
  297. I guess I'm of no use to him now. ฉันคิดว่าตัวเองไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้วตอนนี้
  298. I guess it's not too expensive. ฉันเดาว่ามันคงไม่แพงมาก
  299. I had no idea there was gonna be a party here. ฉันไม่รู้ว่าจะมีปาร์ตี้กันที่นี่
  300. I hate people that talk too much. ฉันเกลียดคนที่พูดมากเกินไป
  301. I have a duty to protect his assets. ฉันมีหน้าที่ต้องปกป้องทรัพย์สินของเขา
  302. I have a favor to ask. ฉันอยากขอความช่วยเหลือสักอย่างหน่อย
  303. I have a reservation. ฉันจองไว้ที่หนึ่งแล้ว
  304. I have a word to say to you tomorrow. Will you come? ฉันมีอะไรจะพูดกับคุณพรุ่งนี้ คุณจะมาไหม?
  305. I have both of the characteristics of my mom and dad. ฉันมีลักษณะเฉพาะของทั้งพ่อและแม่เลย
  306. I have certain conditions. ฉันมีเงื่อนไขบางอย่าง
  307. I have heard father praise your skills. ฉันได้ยินมาว่าพ่อยกย่องทักษะของคุณ
  308. I have no choice but to accept the invitation. ฉันไม่มีทางเลือก ต้องรับคำเชิญนั้น
  309. I have no concerns for my own safety. ฉันไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง
  310. I have no real teaching experience. ฉันไม่มีประสบการณ์การสอนจริง
  311. I have only one wish! ฉันมีความปรารถนาเพียงประการเดียวเท่านั้น
  312. I have protected him from all harm. ฉันได้ปกป้องเขาจากอันตรายทั้งปวง
  313. I have seen it with my own eyes. ฉันเห็นมันมากับตาตัวเอง
  314. I have someone who is very eager to meet you. ฉันมีใครบางคนที่อยากจะพบกับเธอเอามากๆ
  315. I have thought long and hard about this. ฉันคิดหนักและนานเกี่ยวกับเรื่องนี้
  316. I have to make arrangements to bring him back here safely. ฉันจะต้องเตรียมการต่างๆ เพื่อนำเขากลับมาที่นี่อย่างปลอดภัย
  317. I have to take back everything that is ours. ฉันต้องเอาทุกสิ่งที่เป็นของของเรากลับคืนมา
  318. I haven't been here long enough to say. ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่นานพอที่จะบอกได้
  319. I haven't been to a party by myself in a long time. ฉันไม่เคยไปงานปาร์ตี้ด้วยตนเองนานแล้ว
  320. I haven't finished all I had to say. ฉันยังพูดทั้งหมดที่ต้องพูดไม่จบเลย
  321. I hear good things about you. ฉันได้ยินสิ่งดีๆ เกี่ยวกับคุณ
  322. I heard something about him coming up here to town. Is that true? ฉันได้ยินว่าเขากำลังเข้ามาในเมือง เป็นเรื่องจริงหรือ?
  323. I hope that I don't hurt your feelings. ฉันหวังว่าฉันคงไม่ได้ทำร้ายความรู้สึกของคุณ
  324. I hope you didn't hurt yourself. ฉันหวังว่าคุณคงไม่ได้ทำร้ายตัวเองนะ
  325. I hope you find what you're looking for. ฉันหวังให้คุณเจอสิ่งที่คุณกำลังหาอยู่
  326. I hope you know how much I seriously need a new backpack. ฉันหวังว่าคุณจะรู้ว่าฉันอยากได้เป้ใบใหม่มากแค่ไหน
  327. I hope you won't be disappointed. ฉันหวังว่าคุณจะไม่ผิดหวัง
  328. I hope you won't mind. ฉันหวังว่าคุณคงจะไม่ว่าอะไร
  329. I hope you're satisfied. ฉันหวังว่าคุณจะพอใจ
  330. I just can't help wishing. ฉันเพียงแค่อดไม่ได้ที่จะหวัง
  331. I just couldn't lie no more. ฉันแค่ไม่สามารถโกหกได้อีกต่อไปแล้ว
  332. I knew that he is not good the second I met him. ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนไม่ดีตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอเขาแล้ว
  333. I knew we could help each other out. ฉันรู้ว่าพวกเราสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้
  334. I know it will take some time. ฉันรู้ว่ามันต้องใช้เวลาบ้าง
  335. I know it's a big inconvenience for everyone. ฉันทราบว่ามันลำบากมากสำหรับทุกคน
  336. I know the others must give you a hard time. ฉันรู้ว่าคนอื่นๆ จะต้องเล่นงานคุณ
  337. I know you don't like a change of taste. ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบเปลี่ยนรสนิยม
  338. I know you'll love my baby the same way I would. ฉันรู้ว่าคุณจะรักลูกฉันเช่นเดียวกับที่ฉันรัก
  339. I know you're there. I can hear your breathing. ฉันรู้ว่านายอยู่ที่นี่ ฉันสามารถได้ยินเสียงหายใจของนาย
  340. I like to have a professional attitude. ฉันอยากจะมีท่าทีแบบมืออาชีพ
  341. I look more like my mother. ฉันดูเหมือนแม่มากกว่า
  342. I look so much younger than everyone else. ฉันดูเด็กกว่าคนอื่นๆ
  343. I lost everything! What is left? ฉันสูญเสียทุกสิ่งไปหมด ยังเหลืออะไรอยู่อีกหรือ?
  344. I lost my temper. ฉันอารมณ์เสีย
  345. I love taking notes as I read. ฉันชอบจดบันทึกขณะอ่าน
  346. I made an awful mistake. ฉันได้ทำผิดอย่างมหันต์อย่างหนึ่ง
  347. I made that fish curry you love. ฉันทำแกงปลาที่คุณชอบ
  348. I mean, there just has to be some boundaries. ฉันหมายความว่า มันต้องมีขอบเขตบ้าง
  349. I mean, what if you're wrong? ฉันหมายความว่า ถ้าเผื่อคุณเป็นฝ่ายผิดล่ะ
  350. I must be out of my mind. ฉันคงต้องเสียสติ(บ้า)ไปแล้ว
  351. I must leave you now. Make yourselves at home. ฉันต้องออกไปก่อนแล้วล่ะ ทำตัวตามสบายนะ
  352. I must let the mediator decide. ฉันต้องให้คนกลางตัดสินใจแล้ว
  353. I need a bit more time! ขอเวลาฉันอีกสักหน่อยนะ
  354. I need survival skills. ฉันต้องการทักษะในการเอาตัวรอด
  355. I need to ask you both a very important question. ฉันต้องถามคำถามสำคัญกับคุณทั้งสองคน
  356. I need to tell you the truth about your family. ฉันจำเป็นต้องบอกความจริงเกี่ยวกับครอบครัวของคุณให้ทราบ
  357. I need you to do me one last favor. ฉันอยากให้คุณช่วยอย่างหนึ่งเป็นครั้งสุดท้าย
  358. I need you to sign off on this letter. ฉันอยากให้คุณช่วยลงชื่อบนจดหมายฉบับนี้
  359. I never had any help or advice from him. ฉันไม่เคยได้รับความช่วยเหลือหรือคำแนะนำใดๆจากเขาเลย
  360. I promise I will get out of the way and let the two of you be happy. ฉันสัญญาว่าฉันจะหลีกทางให้และปล่อยให้คุณสองคนมีความสุข
  361. I promised your mother that I would take care of you. ฉันสัญญากับแม่เธอว่าฉันจะดูแลเธอ
  362. I read a couple of your short stories when I was in college. ผมเคยอ่านเรื่องสั้นสองสามเรื่องของคุณเมื่อตอนที่เรียนในมหาวิทยาลัย
  363. I read research studies. ฉันอ่านงานวิจัย
  364. I really appreciate, you're trusting me so much. ฉันซาบซึ้งจริงๆ ที่คุณเชื่อใจฉันอย่างมาก
  365. I remembered some urgent business, so I've got to go. ฉันจำได้ว่ามีธุระด่วนบางอย่างที่ต้องทำ งั้นฉันต้องไปแล้วล่ะ
  366. I resemble my mom more. ฉันเหมือนแม่มากกว่า
  367. I saw it with my own eyes. ฉันเห็นมันกับตา
  368. I saw this guy twice today. ฉันเจอผู้ชายคนนี้สองครั้งแล้ววันนี้
  369. I say you keep your mouth shut and let her dream. ฉันว่าคุณปิดปากให้สนิทและปล่อยให้เธอฝันไปเถอะ
  370. I should keep my distance from him. ฉันควรรักษาระยะห่างจากเขา
  371. I spent quite a bit of time in India recently. ฉันไปอินเดียเพียงแค่ไม่กี่วัน เมื่อไม่นานมานี้
  372. I suggest you wrap it in your jacket. ฉันแนะนำให้คุณห่อมันไว้ในเสื้อแจ๊คเก็ต
  373. I swear she's not been here. ฉันสาบานว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่
  374. I think he did it just to feel normal again. ฉันคิดว่าเขาทำมันเพียงเพื่อให้รู้สึกเหมือนปกติอีกครั้ง
  375. I think I had a class with you. ฉันคิดว่าฉันมีชั้นเรียนร่วมกับคุณนะ
  376. I think I have traits of both actually. จริงๆ แล้วฉันคิดว่าฉันมีลักษณะเหมือนทั้งสองคนเลย
  377. I think I need a little time just to figure things out. ฉันคิดว่าฉันต้องการเวลาสักหน่อยเพื่อคิดเรื่องต่างๆ ให้ตก
  378. I think it'll take years. ฉันคิดว่ามันจะต้องใช้เวลาหลายปี
  379. I think you should know I don't generally do that. ฉันคิดว่าคุณควรจะรู้ไว้ว่าโดยปกติแล้วฉันจะไม่ทำอย่างนั้น
  380. I think you should turn around, go back. ฉันคิดว่าคุณควรที่จะหันหลังกลับไปซะ
  381. I thought it was just a rumor! ฉันคิดว่ามันเป็นเพียงข่าวลือน่ะ
  382. I thought she died in childbirth. ฉันคิดว่าเธอเสียชีวิตจากการให้กำเนิดบุตร
  383. I thought you could turn anyone into a professional. ฉันคิดว่าคุณสามารถเปลี่ยนใครก็ได้ให้เป็นมืออาชีพ
  384. I thought you were gonna take a few days off. ฉันคิดว่าคุณจะหยุดงานสักสองสามวัน
  385. I told myself I could pass any test a man could pass. ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันสามารถผ่านการทดสอบใดๆที่มนุษย์สามารถผ่านได้
  386. I told the kids to get off the road. ฉันบอกเด็กๆ ให้ออกจากถนน
  387. I told you to cooperate with these people. ฉันบอกคุณแล้วให้ร่วมมือกับคนเหล่านี้
  388. I understand you're a man that knows how to get things. ฉันเข้าใจว่านายเป็นคนที่รู้ว่าจะหาของต่างๆ มาได้อย่างไร
  389. I use it for my allergies. It works. ฉันใช้มันแก้อาการแพ้ มันได้ผลนะ
  390. I vow never to speak to anyone about what I've seen. ฉันสาบานว่าจะไม่บอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันเห็น
  391. I want to be alone, I don't want anyone to disturb me. ฉันอยากอยู่คนเดียว ฉันไม่อยากให้ใครรบกวน
  392. I want to kill him, I lost my temper completely. ฉันอยากจะฆ่าเขา ฉันโมโหอย่างที่สุด
  393. I want you to gain their trust. ฉันอยากให้คุณได้รับความไว้วางใจจากพวกเขา
  394. I want you to know if anything should ever happen to me. ฉันอยากให้คุณรู้ว่าถ้ามีสิ่งใดที่อาจจะเกิดขึ้นกับฉัน
  395. I want you to take a week off. ฉันอยากให้คุณหยุดงานสักสัปดาห์
  396. I wanted to take it more than anything. ฉันอยากจะได้มันมาเหนือกว่าสิ่งอื่นใด
  397. I was getting tired of waiting! ฉันเหนื่อยที่ต้องคอยแล้ว
  398. I was making a pie and I ran out of milk. ฉันทำขนมพายอยู่ พอดีนมหมด
  399. I was only doing my duty. ฉันแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น
  400. I was so eager to see you. ฉันอยากเจอคุณเหลือเกิน
  401. I was so excited! ฉันตื่นเต้นมาก
  402. I went to that festival when I was younger. ฉันไปเที่ยวงานเทศกาลนั้นเมื่อตอนเป็นเด็ก
  403. I will bring pain to him and to you. ฉันจะทำให้คุณและเขาเจ็บตัวแน่
  404. I will finish what you started. ฉันจะทำสิ่งที่คุณเริ่มต้นไว้ให้เสร็จ
  405. I will help you solve the riddle. ฉันจะช่วยคุณไขปริศนานี้
  406. I will never forgive you. ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณเลย
  407. I will send you a copy in case you care to read it. ฉันจะส่งสำเนาให้กับคุณในกรณีที่คุณสนใจที่จะอ่านมัน
  408. I will tell everyone the truth about what's going on. ฉันจะบอกความจริงกับทุกคนเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
  409. I wish to meet him before I consent to marry. ฉันปรารถนาที่จะพบเขาก่อนที่จะยินยอมแต่งงาน
  410. I wish you'd come for a little visit and let me walk you around. ฉันปรารถนาให้คุณมาเยี่ยมสักนิดและให้ฉันพาคุณเดินเที่ยวชม
  411. I wonder if he even cared. ฉันสงสัยว่าเขาเคยแม้แต่จะสนใจใยดีฉันไหม
  412. I wonder if he ever loved me. ฉันสงสัยว่าเขาเคยรักฉันบ้างหรือเปล่า
  413. I would find a way to help you. ฉันอาจพบวิธีที่จะช่วยคุณ
  414. I would like a glass of red wine. ฉันขอไวน์แดงแก้วหนึ่ง
  415. I would like another cup of coffee. ฉันขอกาแฟอีกถ้วยหนึ่ง
  416. I wouldn't ask you to. ฉันก็จะไม่ขอให้คุณทำ
  417. I wouldn't want you getting in any trouble. ฉันไม่อยากให้เธอตกอยู่ในปัญหาใดๆ
  418. I'd better go before it gets dark. ฉันควรจะไปได้แล้วก่อนที่มันจะมืด
  419. I'd like to invite you to lunch so we can discuss your book. ฉันอยากเชิญคุณมาทานอาหารกลางวันด้วยกัน เพื่อที่เราจะได้คุยกันเกี่ยวกับหนังสือของคุณ
  420. I'd like to invite you to lunch. So we can discuss it. ฉันอยากจะเชิญคุณมาทานอาหารเที่ยงด้วย เราจะได้พูดคุยเรื่องนี้กัน
  421. I'd like you to take a quick look at this. ฉันอยากให้คุณมาดูนี่โดยเร็ว
  422. I'd love to stay here chatting. ฉันอยากจะอยู่พูดคุยที่นี่
  423. I'd never marry an awful girl like you. ฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงแย่ๆ อย่างเธอหรอก
  424. I'd rather die than go back. ฉันตายซะดีกว่ากลับไปอีก
  425. If he does not show up for the competition. ถ้าเขาไม่มาปรากฏตัวในการแข่งขัน
  426. If I don't stay here, my dream will never come true. ถ้าผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ความฝันของผมก็จะไม่มีวันเป็นจริงขึ้นมา
  427. If I got out, I'd never mention what happens here. ถ้าฉันได้ออกไปข้างนอก ฉันจะไม่เอ่ยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่เลย
  428. If my letters bore you, you can always toss them into the wastebasket. ถ้าจดหมายของฉันทำให้คุณเบื่อหน่าย คุณสามารถโยนมันทิ้งลงตระกร้าผงได้เสมอ
  429. If something happens to him, my parents will blame me. ถ้าบางสิ่งเกิดขึ้นกับเขา พ่อแม่ก็จะตำหนิฉัน
  430. If you agree, I have nothing to say. ถ้าคุณเห็นด้วย ฉันก็ไม่มีอะไรที่จะพูดแล้ว
  431. If you get into a jam, you can call me. ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากก็โทรหาฉันได้
  432. If you get the forms, I'll prepare them for you. ถ้าคุณได้แบบฟอร์มนั้นมา ฉันจะช่วยจัดเตรียมมันให้
  433. If you have a clear goal. ถ้าคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน
  434. If you have any questions, I'm sure that he has the answers. ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ ฉันแน่ใจว่าเขามีคำตอบเหล่านั้นให้คุณ
  435. If you like someone, then you can put up with such things here. ถ้าคุณชอบใครสักคน งั้นคุณก็จะอดทนต่อสิ่งต่างๆนั้นได้
  436. If you need anything as a reward, just tell me whatever it is. ถ้าเธออยากได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนแล้วล่ะก็แค่บอกฉันมาเท่านั้น อะไรก็ได้ทั้งนั้น
  437. If you need me I can be back here in no time. ถ้าเธอต้องการฉันฉันจะกลับมาที่นี่โดยเร็ว
  438. If you want me to keep quiet, then, do me a favor. ถ้าอยากให้ฉันปิดปากเงียบล่ะก็ ช่วยอะไรให้ฉันสักอย่างสิ
  439. If you want to indulge this fantasy, it's your business. ถ้าคุณอยากจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเพ้อฝันพวกนี้ มันก็เรื่องของคุณ
  440. If you've done with your work, you should just go home. ถ้าเธอทำงานเสร็จแล้วก็ควรจะกลับบ้านได้แล้วล่ะ
  441. If you've got a dream this is the place to make that dream come true. ถ้าคุณมีความฝัน นี่แหล่ะคือสถานที่ที่จะทำความฝันนั้นให้เป็นความจริง
  442. I'll be right back. เดี๋ยวฉันกลับมา
  443. I'll be right by your side the whole time. ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดเวลา
  444. I'll call back in a half hour. ฉันจะโทรกลับในอีกครึ่งชั่วโมงนะ
  445. I'll call you when we get closer. ฉันจะโทรหาคุณอีกครั้งเมื่อพวกเราใกล้มาถึงแล้ว
  446. I'll familiarize you with some of our options. ฉันจะทำให้คุณคุ้นเคยกับทางเลือกบางอย่างของเรา
  447. I'll have to check my schedule to see when I'm available. ฉันจะต้องเช็คกำหนดการดูก่อนว่าจะว่างเมื่อไหร่
  448. I'll introduce you around, make you feel right at home. ฉันจะแนะนำคุณโดยรอบและทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับอยู่ที่บ้านเลย
  449. I'll just pass by! Shouldn't really matter. ฉันจะเพียงแค่ผ่านไป คงจะไม่ได้สำคัญอะไรนัก
  450. I'll pretend I don't know them. ฉันจะแสร้งว่าไม่รู้จักพวกเขา
  451. I'll promise never to bother you with any more questions. ฉันจะให้สัญญาว่าจะไม่รบกวนคุณด้วยคำถามใดๆ อีก
  452. I'll stop by for some coffee. ฉันจะไปแวะทานกาแฟสักหน่อย
  453. I'll tell you in a minute. ฉันจะบอกกับคุณในอีกสักครู่
  454. I'm about to use you as protection. ฉันกำลังจะใช้คุณเป็นเครื่องป้องกัน
  455. I'm actually not sure, I'll talk to you later. จริงๆ แล้วฉันไม่ค่อยแน่ใจ ฉันจะพูดคุยกับคุณทีหลัง
  456. I'm afraid I don't know exactly what your book is about. เกรงว่าฉันไม่ทราบจริงๆ ว่าหนังสือของคุณเกี่ยวกับเรื่องอะไร
  457. I'm afraid that will be impossible. ฉันเกรงว่านั่นคงจะเป็นไปไม่ได้
  458. I'm an admirer of his work. ผมเป็นผู้ที่ชื่นชมงานของเขามาก
  459. I'm exactly where I'm supposed to be. ฉันอยู่ในที่ที่ฉันควรจะอยู่แล้วจริงๆ
  460. I'm finally ready to get to know you better. ในที่สุดฉันก็พร้อมที่จะรู้จักคุณมากขึ้น
  461. I'm free tomorrow night if you want to get together. ฉันจะว่างคืนพรุ่งนี้ถ้าคุณอยากจะพบปะสังสรรค์กัน
  462. I'm going to ask you questions, and you're gonna answere them. ฉันกำลังจะถามคำถามคุณ และคุณก็จะตอบคำถามเหล่านั้น
  463. I'm going to ask you some questions about pet. ฉันกำลังจะถามบางคำถามกับใครบางคนเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
  464. I'm going to ignore him if I see him at school. ฉันจะทำเป็นไม่แยแสต่อเขาถ้าเจอกันที่โรงเรียน
  465. I'm going to make him an offer he can't refuse. ฉันจะให้ข้อเสนอกับเขาที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้
  466. I'm going to take a vacation. ฉันกำลังจะลาพักร้อน
  467. I'm gonna do some work on the computer. ฉันจะทำงานบางอย่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
  468. I'm gonna get you some help. ฉันกำลังจะช่วยคุณ
  469. I'm gonna go get some dessert. ฉันกำลังจะไปเอาของหวาน
  470. I'm gonna go grab the paper. ฉันกำลังจะไปหยิบหนังสือพิมพ์
  471. I'm gonna miss everybody. ฉันจะคิดถึงทุกๆ คน
  472. I'm grateful to you for everything that you've done for me. ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจสำหรับทุกสิ่งที่คุณทำให้ฉัน
  473. I'm grounded? I can't be grounded, okay? ฉันถูกกักบริเวณหรือ? ฉันถูกกักบริเวณไม่ได้นะ ตกลงไหม?
  474. I'm here to do business with him. ฉันมาที่นี่เพื่อทำธุรกิจกับเขา
  475. I'm hoping that he comes to town. ฉันหวังว่าเขาจะเข้ามาในเมือง
  476. I'm innocent. Just like everybody else here. ฉันบริสุทธิ์ เหมือนกับคนอื่นๆ ที่นี่
  477. I'm just trying to keep you out of trouble. ฉันพยายามจะช่วยคุณให้อยู่ห่างจากปัญหาเท่านั้นเอง
  478. I'm just trying to look out for you. ฉันแค่พยายามที่จะดูแลเธออยู่นะ
  479. I'm known to locate certain things from time to time. ฉันเป็นที่รู้จักในด้านการหาของบางอย่างเป็นบางครั้งบางคราว
  480. I'm no longer a danger to society. ฉันไม่ได้เป็นอันตรายต่อสังคมอีกต่อไป
  481. I'm not familiar with that story. ฉันไม่คุ้นเคยกับเรื่องนั้น
  482. I'm not giving up my career. ฉันจะไม่ทิ้งอาชีพของฉัน
  483. I'm sorry if you disappointed. ฉันขอโทษด้วยถ้าคุณรู้สึกผิดหวัง
  484. I'm sorry to bother you, but could you tell me what kind of car you're driving? ขอโทษด้วยที่รบกวน แต่คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่ารถที่คุณขับนี่เป็นประเภทไหน?
  485. I'm starting to doubt your resolve! ฉันกำลังสงสัยถึงวิธีแก้ปัญหาของคุณ
  486. I'm starting to get angry now. ฉันเริ่มจะโกรธแล้วตอนนี้
  487. I'm sure that everyone has heard of our plans. ฉันแน่ใจว่าทุกคนได้ยินเกี่ยวกับแผนของคุณแล้ว
  488. I'm sure we can fix it with some glue. ฉันแน่ใจว่าเราสามารถซ่อมมันด้วยกาวได้
  489. I'm sure you'll live a good life. ฉันมั่นใจว่าเธอจะใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย
  490. I'm terribly sorry to disappoint you. ฉันเสียใจอย่างที่สุดที่ทำให้คุณผิดหวัง
  491. I'm tired of my life already. ฉันเหนื่อยหน่ายกับชีวิตแล้ว
  492. I'm trying to make a living. ฉันพยายามที่จะทำมาหาเลี้ยงชีพ
  493. In fact, you're not allowed to receive any calls, other than from me. จริงๆ แล้วเธอไม่ได้รับอนุญาตให้รับโทรศัพท์ใดๆ นอกจากของฉัน
  494. Is it difficult for you to understand native speakers? เป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะเข้าใจเจ้าของภาษาพูดใช่ไหม?
  495. Is it time for me to say something? ถึงเวลาที่ฉันต้องพูดอะไรบ้างใช่ไหม?
  496. Is there another way? มีทางอื่นด้วยหรือ
  497. Is your pronunciation bad? การออกเสียงของคุณแย่หรือเปล่า?
  498. Isn't that a little personal? นั่นไม่เป็นเรื่องส่วนตัวไปหน่อยหรือ?
  499. Isn't that the same thing? นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวกันหรอกหรือ?
  500. It all depends on you. ทั้งหมดนี่ขึ้นอยู่กับคุณ
  501. It chills my blood just to look at you. แค่มองดูคุณเลือดในกายฉันก็หนาวสะท้านแล้ว
  502. It definitely costs a lot of money. แน่นอนว่ามันต้องใช้จ่ายเงินมาก
  503. It doesn't make any difference to me what a man does for a living. ไม่เห็นจะแตกต่างตรงไหนสำหรับฉันไม่ว่าเขาจะทำอาชีพอะไร
  504. It had no effect on him at all. มันไม่มีผลใดๆ ต่อเขาเลยแม้แต่น้อย
  505. It is a pleasant sensation to come back to something familiar. มันเป็นความรู้สึกยินดีที่ได้กลับมาสู่บางสิ่งที่คุ้นเคย
  506. It is hard to fill a cup which is already full. มันยากที่จะเติมเต็มถ้วยที่เต็มอยู่แล้ว
  507. It is meant to read over and over again. มันหมายความว่าต้องอ่านแล้วอ่านอีก
  508. It is so nice to finally meet you in person. ดีเหลือเกินที่ในที่สุดก็ได้พบกับคุณเป็นการส่วนตัว
  509. It is such an honor to meet you. รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบคุณ
  510. It is the first time I've ever heard any of this. เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องพวกนี้
  511. It is what they do that makes them good or bad. สิ่งที่พวกเขาทำนั่นแหล่ะที่ทำให้พวกเขาดีหรือไม่ดี
  512. It means you have no choice. มันหมายความว่าคุณไม่มีทางเลือก
  513. It reminds me every day what's waiting out there. มันเตือนใจฉันทุกวันถึงสิ่งที่กำลังรอคอยอยู่ที่นั่น
  514. It seems everyone underestimates you. ดูเหมือนทุกคนประเมินคุณต่ำไป
  515. It seems we have a decision to make. ดูเหมือนมีเรื่องให้เราต้องตัดสินใจ
  516. It seems you made a friend in prison. ดูเหมือนคุณจะได้เพื่อนใหม่ในคุกนะ
  517. It sounds like it's raining all year long in your country. ฟังดูเหมือนฝนตกตลอดทั้งปีในประเทศของคุณ
  518. It sure seems like we got a lot in common. แน่นอนมันดูเหมือนเรามีอะไรหลายอย่างเหมือนกัน
  519. It took a long time, and a lot of work. มันใช้เวลานานและทำงานหนัก
  520. It took me a long time to find out. ฉันใช้เวลาตั้งนานกว่าจะเจอ
  521. It was just a scary dream. มันเป็นแค่เพียงฝันร้าย
  522. It will help to focus your inner mind on what you really want. มันจะช่วยเพิ่งจิตใจภายในของคุณไปยังสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ
  523. It would be lost forever! มันอาจจะหายไปตลอดกาล
  524. It would be my honor to show you. เป็นเกียรติอย่ายิ่งที่ได้แสดงให้คุณดู
  525. It would make me popular. มันอาจทำให้ฉันเป็นที่ชื่นชอบ
  526. It’s the smartest thing you could do. นี่คือสิ่งที่ฉลาดที่สุดที่คุณควรทำ
  527. It's a long process. มันมีหลายขั้นตอน
  528. It's a place where your mom and I used to hang out a lot. มันเป็นที่ที่แม่และพ่อเคยออกมาเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง
  529. It's actually something you could use at college. จริงๆ แล้วก็เป็นบางสิ่งที่คุณสามารถใช้ที่วิทยาลัยได้
  530. It's always a pleasure to cook for you both. ยินดีเสมอที่ได้ปรุงอาหารให้คุณทั้งสอง
  531. It's better than spending that time in jail, isn't it? มันก็ดีกว่าการไปใช้เวลาช่วงนั้นในคุก มิใช่หรือ?
  532. It's gonna ruin your reputation. มันกำลังจะทำลายชื่อเสียงคุณนะ
  533. It's important for everyone not to panic. ที่สำคัญทุกคนจะต้องไม่แตกตื่น
  534. It's just a couple of weeks. มันก็แค่สองสามสัปดาห์
  535. It's just that she's grounded. เป็นเพราะเธอถูกกักบริเวณ
  536. It's kind of complicated. มันค่อนข้างซับซ้อนน่ะ
  537. It's lighter and stronger at the same time. มันทั้งเบากว่าและแข็งแรงกว่าในเวลาเดียวกัน
  538. It's making me very uncomfortable. มันทำให้ฉันอึดอัดมาก
  539. It's my anniversary and I want it to be perfect. มันเป็นวันครบรอบแต่งงานของฉัน ฉันอยากทำให้มันไม่มีที่ติ
  540. It's nice that you see me so much now. ดีที่ตอนนี้เธอไปมาหาสู่ฉันมากจริงๆ
  541. It's not about money and popularity. มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินทองและชื่อเสียง
  542. It's not something you can teach. มันไม่ใช่บางสิ่งที่คุณสอนได้
  543. It's only because my family makes fun of me and it's so annoying. นั่นเป็นเพียงเพราะครอบครัวของฉันชอบแซวฉันและมันก็น่ารำคาญเหลือเกิน
  544. It's only been just a little while. มันก็แค่เพียงสักพักหนึ่งเท่านั้นเอง
  545. It's right behind you. มันอยู่ข้างหลังคุณนั่นไง
  546. It's time for us to be heading home. ถึงเวลาที่เราต้องบ่ายหน้ากลับบ้านแล้ว
  547. It's time to terminate the mission. ถึงเวลายุติภารกิจนี้แล้ว
  548. It's you who should be in bed. เป็นคุณต่างหากที่ควรไปนอนได้แล้ว
  549. It's your fault for ignoring me, no matter how many times I called. เป็นความผิดของเธอเองนะที่เพิกเฉยต่อฉัน ไม่ว่าฉันจะร้องเรียกเธอสักเท่าไร
  550. I've arranged a press conference for tomorrow. ฉันเตรียมการแถลงข่าวสำหรับพรุ่งนี้แล้ว
  551. I've been kind of busy here. ฉันค่อนข้างยุ่งหน่อยที่นี่
  552. I've been looking all over for you. ฉันมองหาคุณทั่วทุกหนแห่ง
  553. I've been looking for someone like you. ฉันกำลังมองหาใครบางคนอย่างคุณ
  554. I've been looking for you! ฉันตามหาคุณอยู่
  555. I've been so afraid of losing him. ฉันกลัวเหลือเกินที่จะเสียเขาไป
  556. I've been waiting for this day my entire life. ฉันรอคอยวันนี้มาตลอดทั้งชีวิต
  557. I've been waiting to ask him something. ฉันกำลังคอยจะถามอะไรเขาบางอย่าง
  558. I've got a full schedule. I'm very busy. ฉันมีตารางเวลาแน่นเอี๊ยด ฉันยุ่งมากเลย
  559. I've got a little something for you. ฉันมีอะไรสิ่งเล็กๆน้อยๆ บางอย่างให้คุณ
  560. I've got some bad news. ฉันมีข่าวร้ายบางอย่าง
  561. I've had enough of this! I want to get out of here! ฉันเหลือทนแล้ว(พอกันที)กับเรื่องนี้แล้ว ฉันอยากออกไปจากที่นี่
  562. I've had my eye on her a long time. ฉันเฝ้าดูเธอมานานแล้ว
  563. I've never seen anything so beautiful in all my life. ฉันไม่เคยเห็นอะไรสวยงามมากๆ อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต
  564. I've never seen her around. ฉันไม่เคยพบเห็นเธอเลย
  565. I've seen it three times this month. ฉันได้ดูมันสามครั้งแล้วในเดือนนี้
  566. I've written several books on the topic. ฉันเขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับเรื่องนั้น
  567. Just don't let it happen again. แค่อย่าให้มันเกิดขึ้นอีกก็แล้วกัน
  568. Just go outside and enjoy yourself, and forget about all this nonsense. แค่ออกไปข้างนอก สนุกสนานกับตัวเอง และลืมเรื่องไร้สาระทั้งหมดนี้เสีย
  569. Just keep your mouth shut and let him do the talking. แค่ปิดปากเงียบไว้แล้วปล่อยให้เขาเป็นคนพูด
  570. Just let me do the talking. แค่ปล่อยให้ฉันเป็นคนพูด
  571. Just pretend to be my girlfriend for a couple of months. แค่แสร้งทำเป็นแฟนฉันสักสองสามเดือน
  572. Just promise your daddy one thing. สัญญากับพ่อสักข้อนะลูก
  573. Just relax and let your mind go blank. แค่ผ่อนคลายและปล่อยใจให้ว่างเปล่า
  574. Just say whatever you feel inside. แค่เพียงพูดอะไรก็ตามที่คุณรู้สึกอยู่ภายในออกมา
  575. Just take a deep breath. แค่หายใจลึกๆ
  576. Just to make sure everything's going well with the studies. ก็แค่เพียงเพื่อให้มั่นใจว่าทุกสิ่งนั้นจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน (เข้ากับการเรียนได้)
  577. Just watching him is enough for me. แค่เฝ้ามองดูเขาก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน
  578. Keep away from the fence. ถอยออกห่างจากรั้ว
  579. Let me ask you this, will his mom be there? ขอฉันถามนี่หน่อย แม่ของเขาจะอยู่ที่นั่นด้วยไหม?
  580. Let me break it down for you. ขอฉันแยกแยะให้เธอฟังหน่อยนะ
  581. Let me demonstrate. ขอฉันสาธิตให้ดูนะ
  582. Let me know beforehand. บอกให้ฉันรู้ล่วงหน้าก่อนนะ
  583. Let me smell it one more time. ขอฉันดมมันอีกครั้ง
  584. Let me take you out on Friday night. ขอผมพาคุณไปข้างนอกคืนวันศุกร์นะ
  585. Let me try that again. ขอฉันลองทำนั่นดูอีกสักครั้ง
  586. Let us ignore it no more. ขอพวกเราอย่าได้ทำเป็นเพิกเฉยต่อมันอีกต่อไป
  587. Let's get back to our problem. กลับมาสู่ปัญหาของเรากันเถอะ
  588. Let's get out of here. ออกไปจากที่นี่กันเถอะ
  589. Let's get revenge! ไปแก้แค้นกันเถอะ
  590. Let's go up to my office, so we can sort this out. พวกเราขึ้นไปที่ห้องทำงานฉันเถอะ เพื่อเราจะได้คิดกันให้กระจ่าง
  591. Let's not rush to judgment. อย่าด่วนตัดสินสิ
  592. Let's raise the child together! มาเลี้ยงลูกด้วยกันเถอะ
  593. Let's sneak out of here now! พวกเราหลบออกไปจากที่นี่ตอนนี้เถอะ
  594. Listen to what I have to say. ฟังในสิ่งที่ฉันต้องจำต้องพูดนี้
  595. Listen, I'll try to keep this brief. ฟังนะ ฉันพยายามจะพูดโดยย่อ
  596. Look who's all grown up now? ดูสิว่าใครกันที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วตอนนี้
  597. Look you give yourself no credit. ดูสิ เธอทำให้ตัวเองไม่น่าเชื่อถือ
  598. Look, do you want to hang out? ฟังนะ คุณอยากออกไปเที่ยวด้วยกันไหม?
  599. Look, l got a bit of bad news for you. นี่ ฉันมีข่าวร้ายเล็กน้อยจะบอกคุณ
  600. Make that the first thing on your list. ทำให้สิ่งนั้นเป็นเรื่องแรกในรายการของคุณ
  601. Make up your mind before it's too late. รีบตัดสินใจเถอะก่อนที่มันจะสายเกินไป
  602. Many people has desperate about their live หลายๆ คนหมดหวังกับชีวิต
  603. May be he's just using you! บางทีเขาอาจจะแค่ใช้เธอ
  604. May I have some more butter, please? ผมขอเนยเพิ่มอีกหน่อยครับ
  605. May I know the purpose of this visit? ขอทราบวัตถุประสงค์การมาเยือนครั้งนี้ได้ไหม?
  606. May I take your order? คุณจะสั่งอะไรดี?
  607. Maybe I'll see you around? อาจได้พบคุณอีกบ่อยๆ นะ
  608. Maybe we can go out for coffee sometime. พวกเราอาจออกไปทานกาแฟกันบ้างบางครั้งนะ
  609. Maybe you should go check on your mom. บางทีคุณควรไปดูแม่คุณหน่อยนะ
  610. Most of our children are rejects from other schools. เด็กๆ ของเราส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธจากโรงเรียนอื่น
  611. Most of them can hardly read. พวกเขาส่วนใหญ่อ่านหนังสือแทบไม่ออก
  612. My dad always did his best. พ่อฉันทำดีที่สุดเสมอ
  613. My dad and I don't get along too well. ฉันและพ่อเข้ากันไม่ค่อยดีนัก
  614. My dad died of a heart attack. พ่อฉันเสียชีวิตจากหัวใจวาย
  615. My dad's gonna call every half hour to check in on me. พ่อจะโทรมาเช็คฉันทุกครึ่งชั่วโมงแน่ะ
  616. My head's begun to ache. ฉันเริ่มปวดหัวแล้ว
  617. My life was going according to plan. ชีวิตของฉันเป็นไปตามแผนที่วางไว้
  618. My work raises too many questions? งานของฉันสร้างข้อกังขามากมายเกินไปหรือ?
  619. Never forgive him for what he did to me. ไม่มีทางให้อภัยสิ่งที่เขาได้ทำกับฉัน
  620. No man has ever done this for me before. ไม่มีผู้ชายคนไหนเคยทำอย่างนี้ให้ฉันมาก่อน
  621. No matter where she goes, I'm right there with her the whole time. ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่นกับเธอตลอดเวลา
  622. No more slave and master here. ที่นี่จะไม่มีทาสและไม่มีนายอีกต่อไป
  623. No one else has my number. ไม่มีใครอีกที่มีเบอร์โทรของฉัน
  624. No one invited me to the prom. ไม่มีใครชวนฉันมางานเต้นรำเลย
  625. Nobody is going to believe me if I don't get proof. จะไม่มีใครเชื่อถ้าผมไม่มีข้อพิสูจน์
  626. None of them can handle it. พวกเขาไม่มีใครเลยที่จะรับมือกับมันได้
  627. Not that that matters to us. ไม่ใช่สิ่งนั้นที่มีความสำคัญกับพวกเรา
  628. Nothing else matters. ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว
  629. Now I know why my cell phone bills are so high. ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมบิลค่าโทรศัพท์ถึงได้แพงมากนัก
  630. Now I'm being replaced by a young lady. ตอนนี้ฉันกำลังถูกแทนที่ด้วยเด็กสาวคนหนึ่ง
  631. Now it is time to imagine a better future. ตอนนี้ถึงเวลาคิดถึงอนาคตที่ดีกว่าแล้ว
  632. Now there's nothing to be worried about. Am I right? ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ฉันพูดถูกไหม?
  633. Now, you can be part of the action. ตอนนี้คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการนี้
  634. Oh, what makes you think I need help? โอ อะไรทำให้คุณคิดว่าฉันต้องการความช่วยเหลือไม่ทราบ?
  635. One of these people is gonna save the world. หนึ่งในผู้คนเหล่านี้กำลังจะกอบกู้โลก
  636. Only if these are met, I will marry you. ถ้าเพียงแต่สิ่งเหล่านี้ได้รับการสนองตอบ ฉันก็จะแต่งงานกับคุณ
  637. Our lives are in your hands. ชีวิตของพวกเราอยู่ในมือคุณ
  638. Please call me as soon as you get this message. โปรดโทรหาฉันทันทีที่คุณได้รับข้อความนี้
  639. Please describe what you see! ได้โปรดบรรยายสิ่งที่คุณเห็น
  640. Please forgive me for being impertinent and ungrateful โปรดให้อภัยผมด้วยที่ขาดความเคารพและไม่สำนึกในบุญคุณ
  641. Please help me in my time of need. ได้โปรดช่วยฉันในยามที่ต้องการด้วยเถิด
  642. Please instruct your students to leave my boy alone to train. โปรดบอกนักเรียนของคุณให้ปล่อยเด็กของฉันตามลำพังเพื่อการฝึกฝน
  643. Please let me go home. ได้โปรดปล่อยฉันกลับบ้านเถอะ
  644. Please repeat what you just told me. ได้โปรดพูดซ้ำสิ่งที่คุณเพิ่งบอกกับฉัน
  645. Please take off your shoes. โปรดถอดรองเท้าออกด้วย
  646. Please, don't come here and make judgments on me. ได้โปรดอย่ามาที่นี่และมาพิพากษาผมเลย
  647. Please, I can't help you unless you talk to me. ได้โปรดเถิด ฉันจะช่วยคุณไม่ได้ถ้าคุณไม่ยอมพูดคุยกับฉัน
  648. Probably the friendly people. อาจจะเป็นผู้คนที่มีความเป็นมิตร
  649. Ready to have a good time? พร้อมจะสนุกกันหรือยัง
  650. Recently, I realized one philosophy of life. เมื่อเร็วๆ นี้ฉันได้ตระหนักถึงปรัชญาข้อหนึ่งของชีวิต
  651. Remember to pay me back! จำไว้ว่าต้องจ่ายคืนฉันด้วย
  652. Respect that fact every second of every day. คำนึงข้อเท็จจริงนั้นทุกวินาทีทุกวัน
  653. She broke her promise. เธอไม่รักษาสัญญา
  654. She doesn't own me. She just thinks she does. เธอไม่ได้เป็นเจ้าของฉัน เธอก็แค่คิดว่าเธอเป็น
  655. She gets more beautiful every time I see her. เธอสวยขึ้นทุกทีที่ได้เจอกัน
  656. She has been on the verge of tears. เธอจวนเจียนจะหลั่งน้ำตาแล้ว
  657. She has invited me to spend the Christmas vacation with her. เธอได้เชิญฉันให้มาเที่ยววันหยุดคริสต์มาสต์ด้วยกัน
  658. She is the most celebrated editor in the business. เธอเป็นบรรณาธิการที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในวงการธุรกิจ
  659. She said he told her straight out that he already had a girlfriend. เธอกล่าวว่าเขาบอกกับเธอตรงๆ ว่าเขามีแฟนแล้ว
  660. She's got skin problems. เธอมีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณ
  661. She's probably the type that'll never get a guy. เธออาจจะเป็นผู้หญิงประเภทที่หาผู้ชายไม่ได้เลยสักคน
  662. She's the one I was telling you about. เธอคือคนที่ฉันเล่าให้นายฟังนั่นแหล่ะ
  663. So I haven't taken a bus for a long time. ฉันไม่ได้ขึ้นรถบัสมานานแล้ว
  664. So I must, once again, summon your parent. ดังนั้นนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งแล้วที่ฉันต้องเรียกพ่อแม่เธอมาพบ
  665. So I work real hard each and every day. ดังนั้นฉันจึงทำงานหนักจริงๆ ในแต่ละวันและทุกๆ วัน
  666. So if you wouldn't mind getting to the point. ถ้าคุณไม่ว่าอะไรช่วยเข้าสู่ประเด็นหน่อย
  667. So you expect me to believe that you're gonna study. ดังนั้นเธอคาดว่าฉันจะเชื่อว่าเธอกำลังจะไปอ่านหนังสือหรือ
  668. So you wouldn't have to leave your life here. ดังนั้นเธอจะต้องไม่มาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่
  669. So, what brings you in here today? ถ้างั้น คุณมาทำอะไรที่นี่?
  670. Some of us have got a schedule to keep. พวกเราบางคนต้องทำตามกำหนดการที่ตั้งไว้
  671. Some other time, then. ถ้างั้นคราวหน้าก็แล้วกัน
  672. Some people have been trying to keep us apart. บางคนพยายามที่จะแยกเราจากกัน
  673. Sooner or later, you always have to wake up. ไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องตื่นขึ้นมาเสมอ
  674. Sorry, I have to go. It was really nice knowing you. ขอโทษนะฉันต้องไปแล้ว ดีจริงๆ ที่ได้รู้จักคุณ
  675. Such a peaceful new year's day! ช่างเป็นปีใหม่ที่สงบสุขอะไรเช่นนี้
  676. Sure you can, if you know how the system works. แน่นอนว่าคุณทำได้ถ้าคุณรู้ว่าระบบมันทำงานอย่างไร
  677. Take a closer look. มองดูใกล้ๆ สิ
  678. Talk to me at home when you have calmed down. ไว้ค่อยคุยกันที่บ้านเมื่อคุณสงบใจแล้ว
  679. Talk with me for just a while. คุยกับฉันเดี๋ยวเดียวก็ยังดี
  680. Tell her to leave town. บอกเธอให้ออกไปจากเมือง
  681. Tell her what else you did. บอกกับเธออีกสิว่าคุณได้ทำอะไรบ้าง
  682. Tell us a bit about yourself. บอกพวกเราเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวของคุณ
  683. Thank you for all you have done. ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณได้ทำให้
  684. Thank you. I have been waiting for that call. ขอบคุณ ฉันกำลังคอยโทรศัพท์นั้นอยู่
  685. Thanks again for saving my life. ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยชีวิตฉันไว้
  686. Thanks for letting me know. ขอบคุณที่บอกให้ฉันทราบ
  687. Thanks for putting up with me. ขอบใจนะที่อดทนกับฉัน
  688. Thanks to a wise teacher like you. ขอบคุณครูผู้หลักแหลมอย่างคุณ
  689. That bridge is the only way across. สะพานนั่นเป็นทางข้ามไปทางเดียว
  690. That hurts my feelings when you say stuff like that. นั่นทำร้ายความรู้สึกฉันมากเมื่อคุณพูดอย่างนั้นออกมา
  691. That is all I really need to know. นั่นคือทั้งหมดที่ฉันอยากทราบจริงๆ
  692. That is exactly what I am doing. นั่นแหล่ะคือสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่
  693. That makes me feel better. นั่นทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
  694. That shouldn't be hard for you. นั่นคงไม่ลำบากสำหรับคุณ
  695. That sounds very nice. ฟังดูเข้าทีนะ
  696. That was my first impression of the man. นั่นคือความประทับใจครั้งแรกของผมที่มีต่อชายคนนี้
  697. That would save you some money. นั่นจะช่วยประหยัดเงินให้คุณได้บ้าง
  698. That you'll never, ever lose sight of what's really important. ว่าลูกจะต้องมองให้เห็นสิ่งที่มีความสำคัญจริงๆ
  699. That's a common misconception. นั่นเป็นความเข้าใจผิดโดยทั่วไป
  700. That's just how we greet each other. นั่นเป็นเพียงวิธีที่เราทักทายซึ่งกันและกัน
  701. That's my final answer. นั่นคือคำตอบสุดท้ายของฉัน
  702. That's not a suggestion, it's an order. นี่ไม่ใช่คำแนะนำ แต่เป็นคำสั่ง
  703. That's not as easy as it looks. นั่นไม่ง่ายอย่างที่เห็นหรอก
  704. That's not what worries me. นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฉันกังวล
  705. That's such a silly idea! ช่างเป็นความคิดที่งี่เง่าอะไรอย่างนี้
  706. That's the same painting you just showed me. นี่เป็นภาพเดียวกับที่คุณเพิ่งจะโชว์ให้ฉันดู
  707. That's what I'm worried about. นั่นคือสิ่งที่ฉันกังวลถึง
  708. That's what we're trying to find out. นั่นคือสิ่งที่พวกเรากำลังค้นหาอยู่
  709. That's why I am the only one who argues with him. นั่นแหล่ะคือเหตุผลที่มีฉันคนเดียวเท่านั้นที่ต่อล้อต่อเถียงกับเขา
  710. That's why I brought you here. นั่นคือเหตุผลที่ฉันพาคุณมาที่นี่
  711. That's why she can't talk to you. นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่สามารถคุยกับคุณได้
  712. That's why we came to you tonight. นั่นคือเหตุผลที่ทำไมพวกเรามาหาคุณคืนนี้
  713. The best idea right now is to stay in their homes. ความคิดที่ดีที่สุดในตอนนี้คือให้พวกเขาอยู่กับบ้าน
  714. The local authorities are not totally on our side. เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ได้เข้าข้างเราเลยสักนิด
  715. The one that threw money in your face? คนที่เขวี้ยงเงินใส่หน้านายนั่นเหรอ
  716. The one thing I swore I would never do. เป็นสิ่งที่ฉันได้สาบานว่าจะไม่ทำมันอีก
  717. The only thing that keeps me going is the dream. สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันก้าวต่อไปก็คือความฝัน
  718. The problem does not lie in the tools. ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือ
  719. The problem has been solved for the time being. ปัญหานั้นได้รับการแก้ไขไปชั่วคราวแล้ว
  720. The problem lies in the person. ปัญหาอยู่ที่คน
  721. The quickest way to a man's heart, is through his stomach. วิธีที่เร็วที่สุดที่จะเข้าถึงหัวใจผู้ชายก็คือเสน่ห์ปลายจวัก
  722. The staff and I will remain here as we attempt to communicate. ทีมงานและฉันจะยังคงอยู่ที่นี่เนื่องจากเราต้องพยายามติดต่อสื่อสาร
  723. The time has come to make a choice. ถึงเวลาที่ต้องเลือกแล้ว
  724. There are other ways to do this, okay? มีหนทางอื่นๆ ให้ทำอยู่ ตกลงไหม?
  725. There is no such thing. ไม่มีสิ่งที่ว่านั่นหรอก
  726. There is no time or place like it. ไม่มีเวลาหรือสถานที่อย่างนี้แล้ว
  727. There is nothing gonna stop me now. ไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งฉันได้ในตอนนี้
  728. There is nothing I can do about it. ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยเกี่ยวกับมัน
  729. There is time to salvage the situation. มีเวลาที่จะกอบกู้สถานการณ์
  730. There must be something for me here! ต้องมีอะไรบางอย่างสำหรับฉันที่นี่
  731. There should be no secrets between us, you know. รู้ไหม มันไม่ควรมีความลับระหว่างเรา
  732. There'll be no one to stop us this time. จะไม่มีใครมาหยุดเราได้ในเวลานี้
  733. There's a room prepared for you. มีห้องหนึ่งเตรียมไว้ให้คุณแล้ว
  734. There's no need for you to tell me anything. คุณไม่จำเป็นต้องบอกอะไรกับฉัน
  735. There's nothing of this in the guidebook. สิ่งเหล่านี้ไม่ปรากฏอยู่ในหนังสือนำเที่ยวเลย
  736. There's nothing they can teach you in college. ในวิทยาลัยไม่มีอะไรที่พวกเขาจะสอนคุณได้
  737. There's something that we've been avoiding all day. มีบางสิ่งที่พวกเราหลีกเลี่ยงมาทั้งวัน
  738. These two girls don't seem to think that way. ดูเหมือนเด็กสาวสองคนนี้จะไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ
  739. They aren't supposed to be available in Thailand. ดูเหมือนพวกมันจะหาไม่ได้ในประเทศไทย
  740. They both fell passionately in love with each other. เขาทั้งสองต่างก็ตกหลุมรักกันอย่างดื่มด่ำ
  741. They can't find a way to get through it. พวกเขาไม่เจอหนทางที่จะผ่านพ้นมัน
  742. They compliment each other very well. พวกเขายกย่องซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี
  743. They don't even speak anymore. พวกเขาไม่แม้แต่จะพูดคุยกันอีก
  744. They get along pretty well. พวกเขาเข้ากันได้ค่อนข้างดี
  745. They had very painful experiences. พวกเขามีประสบการณ์ที่เจ็บปวดมาก
  746. They love me like their own child. พวกเขารักฉันเหมือนลูกตัวเอง
  747. They may have a strong desire to succeed. พวกเขาอาจจะมีความปรารถนาอย่างรุนแรงที่จะประสบความสำเร็จ
  748. They wanna tell you how brilliant you are. พวกเขาอยากจะบอกคุณว่าคุณปราดเปรื่องแค่ไหน
  749. They were after you because you're a thief? พวกเขาไล่ตามเธอ เพราะเธอเป็นขโมยหรือเปล่า?
  750. They'll try to corrupt you. พวกเขาจะพยายามติดสินบนคุณ
  751. They're trying to buy respectability. พวกเขาพยายามที่จะซื้อความน่านับถือ
  752. Things went on like that for a while. สิ่งต่างๆ ดำเนินไปเช่นนั้นชั่วเวลาหนึ่ง
  753. This is a discount card for Chinese restaurant. นี่เป็นบัตรส่วนลดสำหรับภัตตาคารจีน
  754. This is going to be tough. นี่คงจะลำบาก/อึด นะ
  755. This is hardly the time to be having that old discussion. นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาโต้เถียงกันเรื่องเก่าๆ นะ
  756. This is identical to the copy you sent me? นี่เหมือนกับสำเนาที่คุณส่งมาให้ฉัน
  757. This is my first appointment. นี่เป็นนัดหมายแรกของผม
  758. This is the kind of feeling I've been waiting for. นี่แหล่ะคือความรู้สึกที่ฉันรอคอยอยู่
  759. This is the time where you need to learn to let go. นี่เป็นเวลาที่คุณต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางมั่ง
  760. This is the way we play the game here. นี่คือวิธีที่เราเล่นเกมที่นี่
  761. This is too much learning. นี่มันเรียนมาเกินไปแล้ว
  762. This time you're being warned! คราวนี้คุณถูกเตือนนะ
  763. This will scar him forever. สิ่งนี้จะทิ้งรอยแผลเป็นให้เขาตลอดกาล
  764. Tired of people calling us losers. เหนื่อยหน่ายกับผู้คนที่เรียกเราว่าผู้แพ้
  765. Tomorrow, you will stay home and mend the nets? พรุ่งนี้เธอจะอยู่ที่บ้านและซ่อมแหใช่ไหม?
  766. Try to stay calm. พยายามสงบหน่อย
  767. Wait for me at the front gate. คอยฉันที่ประตูหน้านะ
  768. We accept your challenge. เรารับคำท้าของคุณ
  769. We all feel the same way. เราต่างก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
  770. We are here to make peace. พวกเรามาที่นี่เพื่อสร้างสันติ
  771. We are not here to fight. พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อสู้
  772. We are on a very tight schedule. พวกเรามีกำหนดการแน่นมาก
  773. We can't get along well. เราไม่สามารถเข้ากันได้ดี
  774. We can't just leave him here. เราไม่สามารถทิ้งเขาไว้ที่นี่ได้
  775. We could get some information from him first. เราอาจได้ข้อมูลบางอย่างจากเขาก่อน
  776. We don't even have spare rooms. พวกเราไม่มีห้องว่างเลย
  777. We don't have a choice. เราไม่มีทางเลือกเลย
  778. We don't really talk much. จริงๆ แล้วเราไม่ค่อยได้คุยกันมาก
  779. We get them when they're puppies. เราได้พวกมันมาตอนยังเป็นลูกสุนัขอยู่
  780. We gotta get in the habit of documenting everything. เราต้องสร้างนิสัยบันทึกทุกสิ่ง
  781. We gotta go to a secure location. เราต้องไปในที่ที่ปลอดภัย
  782. We gotta stop meeting like this, you know. รู้ไหม เราคงต้องเลิกพบกันลักษณะนี้ได้แล้ว
  783. We have a lot of puppies. เรามีลูกสุนัขจำนวนมาก
  784. We have been given the day off. พวกเราได้รับอนุญาตให้หยุดงาน
  785. We have to ask you to stay calm. เราต้องขอร้องให้พวกคุณอยู่อย่างสงบ
  786. We haven't got much of a choice here. ที่นี่พวกเราไม่มีทางเลือกมากนัก
  787. We just couldn't wait until Monday to find out. พวกเราไม่สามารถรอจนถึงวันจันทร์เพื่อที่จะค้นหาความจริงได้หรอก
  788. We just don't realize it when we hear it. พวกเราเพียงแต่ยังไม่ได้คิดตอนที่เราได้ยินมัน
  789. We made an agreement not to discuss old relationships. เราตกลงกันที่จะไม่โต้เถียงเรื่องความสัมพันธ์เก่าๆ
  790. We must deal with the problem now, or else it will be too late. เราต้องจัดการกับปัญหาเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นมันก็จะสายเกินไป
  791. We must help and teach them as best as we can. พวกเราต้องช่วยสอนพวกเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
  792. We need some rest or take a holiday พวกเราต้องการการพักผ่อนหรือวันหยุดบ้าง
  793. We need somewhere to hide. เราต้องหาที่ซ่อนตัวสักแห่ง
  794. We need to focus on this timeline. เราจำเป็นต้องเพ่งความสนใจไปที่กำหนดเวลานี้
  795. We still have a lot of time to pretend we're friends. พวกเรายังคงมีเวลามากที่จะแสร้งทำเป็นเพื่อนกัน
  796. We train them basic. เราฝึกพื้นฐานให้พวกมัน
  797. We went down there, but it was closed. พวกเราลงไปที่นั่นมาแล้วแต่มันปิด
  798. We wish you and your team good luck. เราขอให้คุณและทีมของคุณโชคดีนะ
  799. We worked hard to create a solution. พวกเราทำงานหนักเพื่อหาทางแก้ปัญหา
  800. We'd like to talk to you about taking over his contract. เราอยากคุยกับคุณเกี่ยวกับการรับช่วงสัญญาของเขา
  801. We'd like you to come in tomorrow for an interview. เราอยากให้คุณมาสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้
  802. We'll advise people not to panic. พวกเราจะชี้แนะผู้คนอย่าตื่นตกใจ
  803. We'll figure out something later, okay? เราจะนึกคิดบางเรื่องทีหลัง โอเคนะ?
  804. We'll sort this out, I promise. พวกเราจะหาทางออกในเรื่องนี้ ฉันสัญญา
  805. Well, it depends on the journey. มันขึ้นอยู่กับระยะทาง
  806. Well, I've taken too much of your time. เอาล่ะ ฉันทำให้คุณเสียเวลาไปมากแล้ว
  807. Well, where are we gonna take him? เราจะพาเขาไปที่ไหนดีล่ะ?
  808. We're about to graduate soon. พวกเรากำลังจะสำเร็จการศึกษาในไม่ช้านี้
  809. We're an hour and a half late. เรามาสายไปชั่วโมงครึ่ง
  810. We're gonna spend a lot of time here. เรากำลังจะใช้เวลาอย่างมากที่นี่
  811. We're gonna try a little harder. พวกเราจะพยายามหนักขึ้นอีกหน่อย
  812. We're not supposed to be running! พวกเราไม่ควรวิ่งนะ
  813. We're stuck together. เรามาติดหนึบอยู่ด้วยกัน
  814. We're supposed to be at the feast by now! พวกเราควรไปถึงที่งานเลี้ยงแล้วตอนนี้
  815. We're taking good care of him. พวกเราจะดูแลเขาเป็นอย่างดี
  816. We've all agreed to work just a bit longer. พวกเราทั้งหมดตกลงที่จะทำงานนานขึ้นอีกสักหน่อย
  817. We've been friends a long time. พวกเราเป็นเพื่อนกันมานาน
  818. What am I supposed to say? ฉันควรจะพูดอะไรดีล่ะ?
  819. What are we gonna do up there? พวกเราจะไปทำอะไรกันที่นั่นน่ะ?
  820. What are you doing out this late at night? เธอมาทำอะไรข้างนอกดึกดื่นขนาดนี้
  821. What are you here for? เธอมาทำอะไรที่นี้
  822. What do I gotta do to prove it to you? ฉันจะต้องทำอย่างไรที่จะพิสูจน์มันให้คุณเห็นได้?
  823. What do you care about money, you got plenty? คุณสนเรื่องเงินด้วยหรือ ในเมื่อมีมากมายอยู่แล้ว?
  824. What do you got for me? คุณได้อะไรมาฝากฉัน?
  825. What do you guys want for dinner? พวกนายอยากจะทานอะไรมื้อค่ำนี้?
  826. What do you have planned for tonight? คุณวางแผนอะไรไว้สำหรับคืนนี้
  827. What do you wish you'd done before you died? คุณปรารถนาจะทำอะไรให้เสร็จก่อนที่คุณจะตายหรือ?
  828. What else will you ban? จะห้ามทำอะไรอีกล่ะ
  829. What exactly do you want in return? จริงๆ แล้วคุณอยากได้อะไรตอบแทนคืนล่ะ
  830. What happens if they do become hostile? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกนั้นไม่เป็นมิตร?
  831. What have I ever done to make you treat me so disrespectfully? ฉันเคยทำอะไรไว้หรือถึงทำให้คุณปฏิบัติต่อฉันอย่างดูหมิ่นดูแคลนมากเหลือเกิน?
  832. What I do with this money is not your concern. ฉันจะทำอะไรกับเงินนี่ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ
  833. What if I wanted to go in with you? ถ้าเผื่อฉันอยากเดินทางไปกับคุณด้วยล่ะ
  834. What if you just made the biggest mistake of your life? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเกิดทำผิดอย่างใหญ่หลวงในชีวิตขึ้นมา?
  835. What information do you think is inside? คุณคิดว่ามีข้อมูลอะไรอยู่ในนั้น
  836. What is the best thing about India? อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับอินเดีย?
  837. What other options do you have? เธอมีทางเลือกอื่นๆ หรือ?
  838. What will I get in return? ฉันจะได้อะไรตอบแทนคืน?
  839. What you got under your coat? คุณได้อะไรไว้ใต้เสื้อโค๊ตนั่น
  840. Whatever you say. It's your money. ก็แล้วแต่คุณ มันเงินของคุณนี่
  841. What'll you be when you grow up? ลูกโตขึ้นจะเป็นอะไร
  842. When it gets dark, then we move in closer. เมื่อมันเริ่มมืดเราจึงจะเคลื่อนเข้าไปใกล้
  843. When will you get the results? คุณจะทราบผลเมื่อไหร่
  844. When you are at a disadvantage, you give up. เมื่อเจออุปสรรคแกก็ยอมแพ้
  845. When you wake up, wipe the slugs off your face. เมื่อเธอตื่นนอนให้กวาดเอาตัวขี้เกียจออกจากใบหน้า
  846. Whenever you need, I'm here for you. เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการ ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อคุณ
  847. Who are you more like, your mother or your father? คุณเหมือนใครมากกว่ากัน พ่อหรือแม่?
  848. Who cares about the details? ใครที่จะสนใจเกี่ยวกับรายละเอียด
  849. Who do you think got you out of jail? คุณคิดว่าใครพาคุณออกมาจากคุก
  850. Who else knows about this? มีใครอื่นรู้เรื่องนี้ไหม?
  851. Who would send you a riddle? ใครกันที่ส่งปริศนามาให้คุณ?
  852. Whoever is mean to me, I'll fight back! ใครก็ตามที่ร้ายกับฉัน ฉันก็จะสู้ตอบ
  853. Whoever is nice to me, I'll be nice too. ใครก็ตามที่ดีกับฉัน ฉันก็จะดีด้วย
  854. Whom do you work for? คุณทำงานให้ใคร?
  855. Who's gonna prove me wrong? ใครจะเป็นคนพิสูจน์ว่าฉันผิด
  856. Who's saying those weird things? ใครที่กำลังพูดเรื่องบ้าบอเหล่านั้น
  857. Who's this scary dude? ชายหน้าตาน่ากลัวนี่เป็นใครหรือ?
  858. Why are you always blaming me? ทำไมคุณถึงได้ตำหนิฉันเสมอ
  859. Why are you being so selfish? ทำไมคุณถึงเห็นแก่ตัวเหลือเกิน?
  860. Why are you getting mad at me? ทำไมคุณถึงได้โกรธฉัน?
  861. Why did it turn out like this? ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้
  862. Why did you want to hang out with me? ทำไมคุณถึงอยากจะไปเที่ยวกับฉัน?
  863. Why didn't I think of that sooner? ทำไมฉันไม่คิดถึงเรื่องนั้นให้เร็วกว่านี้นะ
  864. Why didn't you attend the conference? ทำไมคุณไม่เข้าร่วมประชุม?
  865. Why don't you come back a little later? ทำไมนายไม่มาช้ากว่านี้อีกสักหน่อยนะ
  866. Why don't you go ahead and do whatever it is that you do. ทำไมคุณไม่เดินหน้าต่อไปและทำสิ่งใดก็ตามที่คุณทำอยู่?
  867. Why don't you just relax? ทำไมคุณไม่ผ่อนคลายบ้าง?
  868. Why don't you pack some things and come stay with me? ทำไมคุณไม่เก็บของบางอย่างและไปอยู่กับฉัน?
  869. Why is that so hard to believe? ทำไมมันถึงยากที่จะเชื่อมากนัก
  870. Will you be okay here on your own for a little while? เธอจะอยู่ที่นี่ตามลำพังชั่วครู่ได้ไหม?
  871. With your permission, I'd like to remain at your side. ด้วยคำยินยอมของท่าน ผมอยากจะอยู่เคียงข้างท่าน
  872. Would it be possible to show us around now? เป็นไปได้ไหมที่จะพาพวกเราชมโดยรอบในตอนนี้?
  873. Would you care for another beverage? คุณอยากได้เครื่องดื่มอื่นๆ อีกไหม?
  874. Would you like to go to my place and get to know each other? คุณอยากไปที่พักของฉันและทำความรู้จักกันไหม?
  875. Would you mind if I change the subject for a moment? คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะขอเปลี่ยนเรื่องพูดคุยสักครู่?
  876. Would you mind if I took some time alone. คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมขอใช้เวลาตามลำพังสักหน่อย
  877. Would you mind pouring me a cup of coffee? คุณจะช่วยรินกาแฟให้ฉันสักถ้วยได้ไหม?
  878. Wouldn't it be nice to be like that? เป็นอย่างนั้นไม่ดีหรือ
  879. Wow, that sounds like a really complicated. ว้าว ฟังดูยุ่งยากจริงๆ
  880. You always lose! นายมันขี้แพ้ตลอด
  881. You and I have much to discuss. คุณกับฉันมีเรื่องราวมากมายที่ต้องสนทนากัน
  882. You are expected to learn such a lot of things you've never learned. คุณถูกคาดหมายให้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายอย่างที่คุณไม่เคยเรียนรู้มาก่อน
  883. You are in a safe place. คุณอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว
  884. You are in your last year, shouldn't you spend more time on your studies? เธออยู่ปีสุดท้ายแล้วนะ ควรทุ่มเวลาให้กับการเรียนไม่ใช่หรือ?
  885. You are just being paranoid! คุณก็แค่หวาดระแวงไปหน่อย
  886. You are not allowed to pass. คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่าน
  887. You are not eligible to receive this reward. คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับรางวัลนี้
  888. You are not mature enough to take over from me. แกยังไม่โตพอที่จะเข้ารับงานต่อจากฉัน
  889. You are now in the position of power. ตอนนี้คุณมีอำนาจแล้ว
  890. You are the only person I would want to have my baby. คุณคือคนเดียวที่ฉันอยากจะให้ดูแลลูกฉัน
  891. You broke into our hideout. คุณบุกรุกเข้ามาในที่ซ่อนตัวของเรา
  892. You can change your fate. เธอสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองได้
  893. You can do what you do and do it well. เธอสามารถทำสิ่งที่เธอทำและทำมันได้ดี
  894. You can go as far as you believe. คุณสามารถก้าวไปไกลเท่าที่คุณเชื่อ
  895. You can only go as far as you can see. คุณสามารถก้าวไปไกลได้แค่เท่าที่คุณสามารถมองเห็น
  896. You can taste the color with your mind. คุณสามารถรับรู้สีได้ด้วยใจ
  897. You can waste time with your friends when your chores are done. เธอสามารถออกไปเสียเวลากับเพื่อนๆ ได้ เมื่องานการต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว
  898. You cannot handle the pressure. แกไม่สามารถรับมือกับความกดดันได้หรอก
  899. You can't make a scene every time someone doesn't like your food. คุณไม่สามารถตีโพยตีพายทุกๆ ครั้งที่มีใครไม่ชอบอาหารของคุณ
  900. You can't run away from me! คุณหนีฉันไม่พ้นหรอก
  901. You can't tell anyone about our deal. Promise? คุณจะบอกใครไม่ได้เกี่ยวกับข้อตกลงของเรา สัญญานะ
  902. You don't care whether he lives or die, do you? คุณไม่สนใจไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตายไม่ใช่หรือ?
  903. You don't have to treat your classmate like this. คุณต้องไม่ทำกับเพื่อนร่วมชั้นอย่างนี้
  904. You don't trust me. I'll just stay here and wallow in despair. คุณไม่เชื่อฉัน ฉันก็คงจะอยู่ที่นี่และจมอยู่กับความผิดหวัง
  905. You feel you've been rehabilitated? คุณรู้สึกว่าได้รับการฟื้นฟูสภาพหรือยัง?
  906. You finally showed your true self! ในที่สุดเธอก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา
  907. You find yourself a good man. หาผู้ชายดีๆ ให้ตัวเองสักคนนะ
  908. You gave me an odd look. คุณมองฉันแปลกๆ
  909. You give yourself no credit. คุณไม่ให้เครดิตตัวเองเลย
  910. You got what you wanted, but you lost what you had. คุณได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่คุณก็สูญเสียสิ่งที่มีอยู่
  911. You gotta go to class, you can't skip school. เธอต้องเข้าชั้นเรียน จะโดดเรียนไม่ได้
  912. You had an experience with this sort of thing? คุณเคยมีประสบการณ์กับสิ่งนี้มาก่อนหรือ
  913. You had an urgent phone message about half an hour ago. คุณได้รับข้อความด่วนทางโทรศัพท์ราวครึ่งชั่วโมงมาแล้ว
  914. You have got to convince them. คุณต้องโน้มน้าวพวกเขา
  915. You have no idea of consequences of your actions, do you? นี่เธอไม่รู้เลยหรือว่าผลการกระทำของเธอจะออกมาเป็นอย่างไร?
  916. You have studied English for years. คุณเรียนภาษาอังกฤษมาหลายปี
  917. You have to leave, or you're gonna die. คุณต้องไปมิฉะนั้นคุณจะตาย
  918. You have to make your reputation on being honest. คุณต้องสร้างชื่อเสียงในเรื่องของความซื่อสัตย์
  919. You hear anything about that? คุณได้ยินมาอย่างนั้นหรือ?
  920. You just get to know them little by little. เธอก็แค่จะได้รู้จักพวกเขามากขึ้นทีละน้อย
  921. You knew this would happen? คุณรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นงั้นหรือ?
  922. You know all about him. Help me out. คุณรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเขา ช่วยบอกฉันหน่อย
  923. You know nothing of who I am. คุณไม่เลยรู้ว่าฉันเป็นใคร
  924. You know what that means? รู้ไหมว่านั่นหมายความว่าอย่างไร
  925. You let me down. คุณทำให้ฉันผิดหวัง
  926. You like to go to more quiet places. คุณชอบไปที่ที่เงียบกว่านี้
  927. You look just like your mother when you get upset. ลูกดูเหมือนแม่มากทีเดียวเวลาหงุดหงิดขึ้นมา
  928. You lose your faith too quickly. คุณหมดความศรัทธาเร็วเกินไปนะ
  929. You men make yourselves comfortable. พวกนายทำตัวตามสบายเลยนะ
  930. You need it so you don't forget. คุณต้องการมัน ดังนั้นคุณจะไม่ลืมมัน
  931. You need my help, whether you like it or not. คุณต้องการความช่วยเหลือของฉัน ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม
  932. You need not to worry, I can take care of myself. คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ฉันดูแลตัวเองได้
  933. You need time to adjust yourself. คุณต้องการเวลาเพื่อการปรับตัว
  934. You need to wake up, Tom. ทอม คุณต้องเข้าใจนะ (ตื่นขึ้นมาได้แล้ว)
  935. You never mentioned her. คุณไม่เคยกล่าวถึงเธอเลย
  936. You out to do some damage tonight? คืนนี้เธอออกมาสร้างความเสียหายบางอย่างหรือเปล่า?
  937. You pose an interesting proposition. คุณให้ข้อเสนอที่น่าสนใจ
  938. You pretended to open the book but you were actually thinking of me, right? คุณแสร้งทำเป็นเปิดหนังสือ แต่จริงๆ แล้วกำลังคิดถึงฉันอยู่ใช่ไหม
  939. You put too much pressure on him! คุณกดดันให้เขามากเกินไป
  940. You put too much pressure on him. คุณกดดันเขามากจนเกินไป
  941. You realize you could have been arrested? เธอก็รู้ว่าอาจจะถูกจับใช่ไหม?
  942. You really haven't seen it either? คุณก็ไม่เคยเห็นมันด้วยเหมือนกันหรือนี่?
  943. You say you come with information? Something new? คุณบอกว่าคุณมีข่าวสารมาด้วย มีอะไรใหม่หรือ?
  944. You seem to have a lot of rules. ดูเหมือนคุณจะมีกฎเกณฑ์ซะมากมาย
  945. You should be really proud of him. คุณควรจะภูมิใจในตัวเขาโดยแท้จริง
  946. You should build your reputation on being honest. คุณควรจะสร้างชื่อเสียงในเรื่องความซื่อสัตย์
  947. You shut up when I talk to my boy, understand? คุณช่วยหุบปากตอนที่ฉันพูดกับลูกชายฉันด้วย เข้าใจไหม?
  948. You sneaked out to play without me again! พวกนายหลบออกไปเล่นกันโดยไม่มีฉันอีกแล้วนะ
  949. You stayed in bed all day? คุณนอนอยู่บนเตียงทั้งวันเลยหรือ?
  950. You still can't understand English speakers easily? คุณยังคงไม่สามารถเข้าใจที่เจ้าของภาษาพูดได้โดยง่ายใช่ไหม?
  951. You sure you do not suffer needlessly? แน่ใจนะว่าคุณไม่ทนทุกข์โดยไม่จำเป็น
  952. You think I haven't met people like you before? คุณคิดว่าฉันไม่เคยเจอคนอย่างคุณมาก่อนหรือไง
  953. You think I'm afraid of you? คุณคิดว่าฉันกลัวคุณหรือ?
  954. You think I'm gonna let you out of my sights again, huh? คุณคิดว่าฉันจะยอมให้คุณออกไปนอกสายตาอีกหรือ หือ?
  955. You want me to make you breakfast? คุณอยากให้ฉันทำอาหารเช้าให้ทานหรือ?
  956. You want to mess it up? คุณอยากทำให้มันเละเทะหรือไง?
  957. You want to take a break for a while? คุณอยากพักสักครู่หน่อยไหม?
  958. You will be adults in a few weeks, with all the responsibilities. เธอจะเป็นผู้ใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ด้วยความรับผิดชอบเต็มเปี่ยม
  959. You will never hear me complain again. คุณจะไม่ได้ยินฉันบ่นอีกเลย
  960. You will see that there is nothing to be scared of. คุณจะได้เห็นว่าไม่มีอะไรต้องกลัวเลย
  961. You'd better have a look at this. คุณควรจะมาดูสิ่งนี้
  962. You'd better stay out of my sight! นายควรจะอยู่ห่างๆ จากสายตาฉันหน่อย
  963. Your courage will lead to victory. ความกล้าหาญของคุณจะนำไปสู่ชัยชนะ
  964. Your daddy should be home from work by now. พ่อของลูกควรจะกลับถึงบ้านแล้วตอนนี้
  965. Your driver is waiting to take you to the airport. คนขับรถกำลังรอพาคุณไปสนามบินอยู่
  966. Your girlfriend seemed pretty offended. ดูเหมือนแฟนคุณไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
  967. Your mind is an incredible power. จิตใจของคุณคือพลังอำนาจที่เหลือเชื่อ
  968. Your mom asked me to take care of you. แม่เธอขอให้ฉันดูแลเธอ
  969. You're a lot better at this than I am. คุณทำสิ่งนี้ได้ดีกว่าฉัน
  970. You're a pretty good cook. คุณเป็นแม่ครัวที่ดีมาก
  971. You're all to blame! เธอทุกคนต้องได้รับการตำหนิ
  972. You're crying over something like that? เธอกำลังร้องไห้เอากับเรื่องอย่างนี้นะเหรอ?
  973. You're gonna do great. คุณจะต้องทำมันได้ดีเยี่ยม
  974. You're gonna get me in trouble. คุณกำลังจะสร้างปัญหาให้ฉัน
  975. You're gonna have everything you've ever wished for. คุณกำลังจะได้ทุกสิ่งที่คุณเคยขอไว้
  976. You're here. It's a prison break. คุณมานี่ได้ แหกคุกมาหรือไง
  977. You're in a restricted area, sir. คุณกำลังอยู่ในเขตหวงห้ามครับ
  978. You're joking, you like my cooking? คุณล้อเล่นน่า คุณชอบอาหารที่ฉันทำหรือ?
  979. You're not allowed to make any calls. เธอไม่ได้รับอนุญาตให้โทรหาใคร
  980. You're not asking me to name names, are you? คุณไม่ได้ขอให้ฉันระบุชื่อ ใช่ไหม?
  981. You're not exactly what you seem, are you? คุณไม่ใช่อย่างที่เห็นนี่ใช่ไหม?
  982. You're not gonna believe this. คุณจะต้องไม่เชื่อเรื่องนี้แน่
  983. You're not gonna go talk to her? คุณจะไม่ไปพูดกับเธอใช่ไหม?
  984. You're not on the list. คุณไม่ได้มีชื่ออยู่ในรายการ
  985. You're on the edge of history. คุณกำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว
  986. You're smart enough to know that. คุณฉลาดพอที่จะทราบเรื่องนั้น
  987. You're so trying to get me into so much trouble. คุณพยายามอย่างเหลือเกินที่จะสร้างปัญหามากมายให้ฉัน
  988. You're starting to make me nervous. คุณกำลังเริ่มทำให้ฉันหงุดหงิดแล้วนะ
  989. You're stupider than you look. คุณทึ่มกว่าที่เห็น
  990. You're supposed to be finding a diplomatic solution. คุณควรจะค้นหาแนวทางแก้ปัญหาทางการทูต
  991. You're sure you don't need some more time off? คุณแน่ใจนะว่าไม่อยากหยุดพักมากกว่านี้?
  992. You're the only one I'm not afraid of. คุณเป็นเพียงคนเดียวที่ฉันไม่กลัว
  993. You're under arrest for smuggling. คุณถูกจับแล้วฐานลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย
  994. You've got to be kidding me! คุณต้องล้อฉันเล่นแน่
  995. You've got to be really cold since you've been waiting for me outside. คุณต้องหนาวแน่ๆ เพราะยืนคอยฉันอยู่ข้างนอก
  996. You've got to make them happen. คุณต้องทำให้มันเกิดขึ้น
  997. You've got to obey the rules. คุณต้องเชื่อฟังกฎระเบียบ
  998. You've got to stand for something, or you'll fall for anything. คุณต้องยืนหยัดเพื่อบางสิ่งมิฉะนั้นคุณจะพลาดหวังกับทุกสิ่ง
  999. You've got to take responsibility for your life. เธอต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง
  1000. You've heard this story before. คุณได้ยินเรื่องนี้มาก่อน